
สัปดาห์ที่ผ่านมาเรียกว่าเป็นช่วงที่หุ้นสหรัฐมีช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในรอบเดือน ทั้งในแง่ของการขาดทุนและราคาปิด อาจกล่าวได้ว่าเป็นผลกระทบจากการฟื้นตัวจาก Bond Yield หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับที่จีน นั่นจึงทำให้เป็นสัปดาห์ที่ยากลำบากตามที่มีการคาดการณ์ไว้ว่าตลาดจะปรับตัวได้ดีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้
Triple witching hour หรือช่วงเวลาที่ตัวเลือกออปชั่น และฟิวเจอร์ส นั้นมีความผันผวน
ที่เพิ่มขึ้น จากรายงานของ Bloomberg ที่กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าการแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นนั้นมีมากถึง 1.6 หมื่นล้านหุ้น ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงในการแลกเปลี่ยนที่
สูงกว่าค่าเฉลี่ยสามเดือนถึง 60% ในขณะที่ S&P 500 นั้นลดลงเกือบ 1%
จากข้อมูลในวันศุกร์ที่ 17 กันยายนที่ผ่านมานั้น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงต้นเดือนกันยายนเป็น 71 (ประมาณ 72) จาก 70.3 แต่ก็เป็นตัวเลขที่
ยังคงใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดในรอบเกือบทศวรรษ จากการซื้อข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนที่ตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2523 เนื่องจากมีราคาที่สูงเกินไป
โดยผู้บริโภคคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 4.7% ในปีหน้า ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 อย่างไรก็ตาม ยอดค้าปลีกในสหรัฐฯ แสดงให้เห็นภาพที่แตกต่างกันเล็กน้อย คือมีอัตราที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนที่แล้ว ไม่รวมรถยนต์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 5 เดือน โดยมีค่าเฉลี่ยในยอดขายโดยรวมลดลง 0.7%
สรุปภาพรวมตลาดในวันศุกร์ที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา ดังนี้
มูลค่าปิดตลาด (จุด) | ค่าการเปลี่ยนแปลง (จุด) | คิดเป็น (%) | |
Dow Jones | 34,584.88 | -166.44 | -0.48% |
S&P 500 | 4432.99 | -40.76 | -0.91% |
Nasdaq Comp | 15043.97 | -137.96 | -0.91% |
US 10Y | 1.363% | ||
VIX | 20.81 | +2.12 | +11.34% |
นับว่าเป็นตลาดมีมูลค่าที่ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยเฉพาะ S&P ที่อยู่ต่ำกว่า
ค่าเฉลี่ย 50 วัน ซึ่งเป็นระดับเทคนิคที่บ่งชี้ว่าสิ่งต่างๆ อาจแย่ลงหากตลาดไม่สามารถปรับระดับให้ดีขึ้นในเร็ววัน ส่วนความหวังที่ราคาตลาดที่วิ่งสวนแนวโน้มหลักกลับมานั้น ก็อาจ
ไม่เป็นผลเพราะระดับตัวเลขปัจไม่ได้มีแนวโน้มที่รุนแรงเพราะเราอยู่ห่างจากระดับสูงสุด
เป็นประวัติการณ์
กล่าวได้ว่าเป็นสัปดาห์ที่ไม่ได้มีข่าวดีหรือข่าวร้ายมากนัก จากภาวะ Market fatigue
ที่นักลงทุนส่วนใหญ่ทุ่มซื้อขายในสินทรัพย์เดียวกันจนเหลือนักลงทุนที่ปิดสถานะเป็น
ส่วนน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นยังคงส่งผลกระทบต่อราคาตลาดอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกันเมื่อปริมาณการซื้อขายลดลงและราคาค่าเฉลี่ยที่นักลงทุนทุกคนจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งสินทรัพย์ในช่วง 10 สัปดาห์ที่ผ่านมาซื้อขาย (50 หรือ 2 เดือนครึ่ง) ทำให้เป็นระดับแนวรับ
ที่ใช้กันทั่วไปเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันพังทลาย โดยสามารถคาดหวังให้มีการอ่อนค่า
เพิ่มเติมจากกลุ่มหมีเป็นลำดับต่อไป
ซึ่งการอ่อนค่านี้สามารถจัดการ long ที่อ่อนแอกว่าออกไปได้ นักลงทุนที่ซื้อขายในระดับ
ที่สูงนั้นก็อาจจะสามารถจัดการขายเพื่อหยุดการขาดทุนมากขึ้น ส่วน ณ ตอนนี้นักลงทุน
ที่เคยรอจังหวะ on dip นั้นกำลังเฝ้าดูสถานการณ์และความเป็นไป ซึ่งบางทีนั่นอาจเป็น
สิ่งที่เราควรทำก่อนจะเร่งทำการซื้อหรือขายนั่นเอง
อ้างอิง: Source: CBOE, Reuters, Bloomberg
บทความโดย James Gomes ผู้คร่ำหวอดในวงการการเงินมากว่า 30 ปี โดยทำงานกับธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ มานานกว่า 20 ปี
ประกาศความไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
แม้ว่า DOO Group จะพยายามทุกวิถีทางเพื่อรับรองความถูกต้องของเอกสารหรือบทความนี้ แต่จะไม่รับรองหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลนี้ และ DOO Group จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือโดยอ้อมจากการใช้เอกสารหรือบทความนี้ เนื้อหาในเอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปและเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการศึกษาเท่านั้น ซึ่งบทความนี้ไม่ใช่และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเสนอในการซื้อหรือขาย หรือเป็นการชักชวนให้เสนอซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ออปชั่น พันธบัตรหรือเครื่องมือทางการเงินหรือการลงทุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เอกสารหรือบทคามนี้ไม่ควรใช้เป็นการแนะนำหรือให้การลงทุนหรือคำแนะนำอื่นใดเกี่ยวกับการซื้อ การขาย หรือการจำหน่ายตราสารทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง หรือผลิตภัณฑ์ หลักทรัพย์ หรือการลงทุนอื่นใด การตัดสินใจลงทุนในเครื่องมือทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ หลักทรัพย์หรือการลงทุนไม่ควรทำโดยอาศัยข้อความใด ๆ ในเอกสารนี้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินของตนเองโดยคำนึงถึงความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละคน และพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจลงทุนดังกล่าวอย่างรอบคอบ
DOO Group และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจหรือการดำเนินการใด ๆ โดยอาศัยข้อมูลในเอกสารหรือบทความนี้ และในกรณีใด ๆ DOO Group และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดต่อความเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่อง ทั้งโดยบังเอิญ โดยอ้อม หรือผลคล้ายกันที่เกิดขึ้นจากความเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือบทความนี้ แม้ว่าจะได้แจ้งถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวแล้วก็ตาม
เอกสารนี้หรือบทความนี้มีข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่รวมอยู่ในเอกสารนี้อิงตามการคาดการณ์ในปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้อิงจากการวิเคราะห์ของ DOO Group จากสถิติที่มีอยู่ สมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวข้องกับการตัดสินที่เกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจในอนาคต การแข่งขันและตลาดในอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์อย่างแม่นยำ เนื่องด้วยความไม่แน่นอนที่มีนัยสำคัญซึ่งมีอยู่ในข้อมูลเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่รวมอยู่ในที่นี้ การรวมข้อมูลดังกล่าวไม่ควรถือเป็นการแสดงโดย DOO Group ว่าจะสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างถูกต้อง DOO Group ขอแจ้งว่าให้ทราบว่าไม่ควรไว้วางใจในแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้ามากเกินไป และไม่รับผิดชอบต่อการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ การแสดงความเห็นเป็นของผู้เขียนและอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
เอกสารนี้ถือเป็นความลับกับผู้อ่านและข้ออมูลนี้มีการจัดหาเพียงเพื่อข้อมูลเท่านั้นและไม่สามารถทำซ้ำ แจกจ่ายซ้ำ หรือส่งต่อ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมไปยังบุคคลอื่นหรือเผยแพร่ทั้งหมดหรือบางส่วน เพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ห้ามนำหรือส่งเอกสารนี้หรือสำเนาใด ๆ ไปยังสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา หรือแจกจ่ายโดยตรงหรือโดยอ้อมในสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา การแจกจ่ายเอกสารนี้ในเขตอำนาจศาลอื่นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมาย และบุคคลที่ครอบครองเอกสารนี้ควรแจ้งตนเองและปฏิบัติตามข้อจำกัดดังกล่าว การยอมรับรายงานนี้แสดงว่าคุณตกลงผูกพันตามคำแนะนำข้างต้น