แชทบอทอัจฉริยะอย่าง ChatGPT กลายเป็นความสำเร็จล่าสุดของวิวัฒนาการ AI และเป็นที่ฮือฮาของผู้คนทั่วโลกตั้งแต่ได้เปิดตัวสู่สาธารณะครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้ Business Insider รายงานว่า GPT-4  หรือแชทบอทเวอร์ชั่นล่าสุดสามารถทำข้อสอบใบอนุญาตทางการแพทย์ของสหรัฐฯ ได้อย่างถูกต้องถึง 90% อีกทั้ง ยังสามารถวินิจฉัยโรคของอาการที่เกิดขึ้น 1 ใน 100,000 ที่เรียกว่า ‘Congenital Adrenal Hyperplasia’ ได้ในไม่กี่วินาทีอีกด้วย หรือว่า GPT-4 ครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนของวงการ AI 

ในความเป็นจริงแล้ว วงการสาธารณสุขแบบดิจิทัลเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากความต้องการทางการแพทย์จากผู้ป่วยที่ไม่สามารถเดินทางได้ทำให้เกิดการใช้งานบริการทางการแพทย์ทางไกลและการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ออนไลน์ทั่วโลก ทำให้ผู้ป่วยได้รับวิธีการรักษาที่สะดวกและรวดเร็ว และปัจจุบัน ในขณะที่โรคระบาดอยู่ภายใต้การควบคุมทางการแพทย์มากขึ้น สถาบันทางการแพทย์และบริษัทต่างๆ ก็เริ่มเสริมสร้างบริการทางการแพทย์ผ่านทางทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ในช่วงหลังการแพร่ระบาด ซึ่งช่วยปรับปรุงคุณภาพการบริการและพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดียิ่งขึ้น 

เนื่องจากการสะสมข้อมูลทางการแพทย์ และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องบวกกับความนิยมของเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มขึ้น ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) การประมวลภาษาธรรมชาติ (Natural language processing) และเทคโนโลยีอื่นๆ ได้ถูกนำมาใช้เพื่อการช่วยวินิจฉัย รักษา คาดเดา ติดตาม และจัดการด้านการแพทย์ ทั้งนี้เพื่อพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพของบริการทางการแพทย์ให้ดียิ่งขึ้น 

อุตสาหกรรม AI กำลังถูกใช้เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการแพทย์เพื่อนำไปสู่การพัฒนาใหม่ ภาคการลงทุนที่เกี่ยวข้องก็มีผลพลอยดึงดูดความสนใจของตลาดไปด้วย AI จะกลายเป็นดังมนต์วิเศษที่ช่วยวงการสาธารณสุขหรือไม่ และนักลงทุนจะได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมเหล่านี้อย่างไร 

พลิกโฉมวงการสาธารณสุขด้วยเทคโนโลยี AI: ผลกระทบที่เกิดขึ้นและตัวอย่าง 

AI กลายเป็นกระแสที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งช่วยให้เกิดนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆ ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา รวมถึงก่อให้เกิดการรักษาโรคที่ครอบคลุมมากที่สุด มีการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย และการพัฒนายาที่รวดเร็วที่สุดด้วย 

การรักษาโรค 

การติดตามดูแลทางไกล (Remote Patient Monitoring: RPM) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีด้านสุขภาพแบบดิจิทัล ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย และบริการด้านสาธารณสุขจำนวนมาก รวมถึงการนัดแพทย์ และการซื้อยาตามใบสั่งแพทย์ สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นผ่านแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ยังมีระบบบริการให้คำปรึกษาออนไลน์ (e-Consultation system) ซึ่งสร้างขึ้นจากการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และเทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing หรือ NLP) เพื่อช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรคอย่างรวดเร็ว 

AI สามารถใช้อัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อระบุและวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล ที่มาจากแอปพลิเคชันที่จัดเก็บไว้ในคลังข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถทำนายความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้ เช่น โรคเบาหวานและโรคไต ในทางกลับกัน AI สามารถทำงานในรูปแบบวันต่อวันจากผู้ป่วยเพื่อเสนอคำแนะนำทางแพทย์ที่ครอบคลุม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสุขภาพจิตและร่างกาย 

ข้อมูลดิจิทัลด้านสุขภาพและการแพทย์เหล่านี้ไม่เพียงทำให้จัดการทรัพยากรของสถาบันทางการแพทย์ได้ง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้แพทย์สามารถจัดการแผนการรักษาสำหรับผู้ป่วยเฉพาะบุคคลและช่วยพัฒนาประสิทธิภาพในการวินิจฉัยโรคได้ดียิ่งขึ้น 

การประมวลผลภาพทางการแพทย์ (Medical Image Processing) 

ภายใต้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี การประมวลผลภาพทางการแพทย์ได้ก้าวผ่านระยะเริ่มต้นไปสู่จุดสูงสุด ซึ่งช่วยพัฒนาการประมวลผลและวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ที่นอกเหนือจากเทคโนโลยีอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เอ็กซ์เรย์ การส่องกล้อง CT และ MRI ในขณะที่ช่วยการตัดสินใจและทำให้การรักษาของแพทย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 

เทคโนโลยี AI ที่มาพร้อมกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) และ คอมพิวเตอร์วิทัศน์ (Computer Vision) สามารถช่วยแบ่งส่วนและหาความผิดปกติได้อัตโนมัติ ความสามารถของ AI ช่วยให้ผู้ให้บริการด้านการแพทย์สามารถตัดสินใจทางการแพทย์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น AI ยังสามารถตีความภาพได้อัตโนมัติ เปรียบเทียบและวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์หลายภาพพร้อมกัน ช่วยประหยัดเวลาแพทย์ในการอ่านฟิล์ม และลดความเสี่ยงในการวินิจฉัยผิดพลาดไปพร้อมกัน อีกทั้ง AI ยังสามารถสร้างภาพทางการแพทย์ขึ้นใหม่ในรูปแบบสามมิติผ่านเทคโนโลยี Computer Vision เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถระบุตำแหน่งและรูปร่างของความผิดปกติได้อย่างชัดเจนในระหว่างการผ่าตัดและการรักษาอื่นๆ 

การพัฒนายารักษาโรค 

AI มีความสามารถในการคำนวณข้อมูลขนาดใหญ่และปรับโมเลกุลให้เหมาะสม ซึ่งมักใช้เพื่อประเมินปฏิสัมพันธ์ระหว่างโมเลกุลระหว่างเภสัชพลศาสตร์ หนึ่งคือการช่วยนักวิทยาศาสตร์คัดกรองสารประกอบที่มีศักยภาพได้อย่างรวดเร็ว และอีกทางหนึ่งคือช่วยออกแบบโครงสร้างโมเลกุลยาที่แม่นยำ ซึ่งจะเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพของการพัฒนายา อีกทั้ง AI ยังสามารถใช้คลังข้อมูลขนาดใหญ่และเทคโนโลยี Machine Learning เพื่อกรองผู้ป่วยจากข้อมูลทางการแพทย์ รวมถึงคาดการณ์ผลลัพธ์ทางการแพทย์ และปรับการออกแบบการทดลองให้เหมาะสมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทดลองและเพิ่มอัตราความสำเร็จให้มากขึ้น 

กระบวนการค้นพบยาที่ใช้ AI และคอมพิวเตอร์ชีวภาพสามารถทำให้เสร็จสิ้นได้ภายในเวลาเฉลี่ย 1-2 ปี ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้ 40 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรุ่นดั้งเดิม  

Tech Emergence ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า AI ได้ช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จของการพัฒนายาใหม่จาก 10 เปอร์เซ็นต์เป็น 14 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้าน R&D ได้หลายพันล้านดอลลาร์ในแต่ละปี 

โอกาสสำคัญ: การลงทุนในวงการสาธารณสุข AI 

เมื่อเร็วๆ นี้ ประเทศจีนเพิ่งเปิดตัวนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการนำ AI มาใช้ในวงการสาธารณสุข ซึ่งเป็นการกำหนดแนวทางการนำ AI มาใช้ในด้านสาธารณสุข ซึ่งอุตสาหกรรมการแพทย์ AI มีมาตรฐานและบรรทัดฐานที่กำหนดไว้ และกฎระเบียบที่สร้างขึ้นมานั้นเอื้อต่อการพัฒนาของอุตสาหกรรมให้ดียิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ บริษัท Baidu ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีได้ประกาศเข้าซื้อกิจการของ GBI Health หลังจากเปิดตัวแอป “ERNIE Bot” ที่มีลักษณะคล้าย ChatGPT ตลาดมีความคาดหวังสูงว่าไป่ตู้จะรวม “ERNIE Bot” เข้ากับ GBI Health ซึ่งเป็นแอปฯ ที่มีข้อมูลทางการแพทย์จำนวนมหาศาล ทั้งนี้ เพื่อสร้างคลังมันสมองทางการแพทย์ที่ครอบคลุม มีความฉลาด และมีความเป็นมืออาชีพ 

เมื่อผู้นำในอุตสาหกรรมวางโครงร่างด้านการแพทย์ AI มากขึ้นแล้ว ตลาดก็มองเห็นอนาคตของการแพทย์ AI ว่า การสาธารณสุขอาจเป็นพื้นที่พิสูจนสำหรับ AI ได้ดีทีสุดและจะดึงดูดให้เกิดการลงทุนต่อไปในอนาคตอันใกล้ 

ในปัจจุบันมีบริษัทมากมายที่ทำงานเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพด้วย AI ในแง่ของการรักษาโรค ยกตัวอย่างเช่น YiduCore ซึ่งเป็นสมองอัจฉริยะทางการแพทย์ที่พัฒนาโดยบริษัท YiduTech โดย YiduCore ใช้เทคโนโลยี NLP และเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อประมวลผลข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างแบบจำลองและข้อมูลเชิงลึกผ่าน Deep Learning และเทคโนโลยี Knowledge Mapping  

YiduCore เป็นระบบการแพทย์อัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลเวชระเบียนมากกว่า 3 พันล้านรายการจากผู้ป่วยกว่า 700 ล้านคน ณ วันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2022 และให้บริการแก่โรงพยาบาลวิจัยชั้นนำหลายแห่งของจีน ตลอดจนหน่วยงานกำกับดูแลและเจ้าหน้าที่ผู้ออกนโยบาย 

นอกจากนี้ ไดนามิกของ Winning Health Technology ผู้นำอุตสาหกรรมในปี 2023 ยังดึงดูดความสนใจอย่างมากอีกด้วย ธุรกิจของ Winning Health Technology ครอบคลุม 2 ส่วนหลัก ได้แก่ การให้ข้อมูลด้านสาธารณสุขและสุขภาพดิจิทัล ความสำเร็จที่โดดเด่นที่สุดคือการพัฒนาแบบจำลอง CH Bone AI กับโรงพยาบาลเด็กเซี่ยงไฮ้ในปี 2018 โดยมีการจดจำภาพอายุกระดูก และได้เซ็นสัญญากับ Shanghai Mingchen Tong ในปี 2565 เพื่อส่งเสริมการประเมินอายุกระดูกด้วย AI ให้เป็นที่นิยม ในปี 2022 โดยบริษัทยังได้อัปเกรดกลยุทธ์เป็น “1+X” อย่างเป็นทางการ โดยสร้างสถานการณ์การใช้งานด้านสุขภาพดิจิทัล “X” โดยอาศัย WiNEX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกลางแบบครบวงจร เพื่อสร้างระบบนิเวศข้อมูลทางการแพทย์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น 

PharmaBlock เป็นผู้นำในการประยุกต์ใช้ AI ในการค้นคว้าและพัฒนายา ด้วยธุรกิจ CDMO และธุรกิจโครงสร้างระดับโมเลกุล PharmaBlock จึงเป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์เคมีและบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ โดยเป็นพันธมิตรกับบริษัทเภสัชกรรมชั้นนำระดับโลก 20 แห่ง และบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพขนาดเล็กถึงขนาดกลางหลายร้อยแห่ง การใช้ทรัพยากรหลักของ Molecular Blocks ทำให้ PharmaBlock ได้พัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยี Artificial Intelligence Drug Discovery (AIDD) เพื่อสกัดสารประกอบสำหรับโรคต่างๆ และปรับปรุงประสิทธิภาพและอัตราความสำเร็จของการพัฒนายาใหม่ 

เมื่อเร็วๆ นี้ การประเมินมูลค่าของภาคสาธารณสุขในตลาดหุ้นได้เข้าใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าหลังจากประสบกับภาวะขาลง ภาคการดูแลสุขภาพก็เป็นโอกาสการลงทุนที่ดีอีกครั้ง สถาบันการลงทุนโดยทั่วไปเชื่อว่าภาคการดูแลสุขภาพมีมูลค่าการลงทุนสูง และตลาดกำลังคว้าโอกาสในการลงทุนระยะยาว เป็นผลให้เงินทุนไหลเข้าสู่ภาคการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยไหลเข้าสุทธิมากถึง 672 ล้านหยวนในวันที่ 13 เมษายน จากการจัดอันดับอุตสาหกรรมการวิจัยของ SWS ชี้ให้เห็นว่าภาคการสาธารณสุขและเทคโนโลยีชีวภาพเป็นกลุ่มสถาบันที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด โดยมีหุ้น 37 ตัวที่ได้รับคะแนน “Buying” 

ประเด็นที่สำคัญในการนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมสาธารณสุข 

สาธารณสุข AI อาจดูเหมือนเป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากการสนับสนุนด้านนโยบายและการสนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำเป็นต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องด้วย 

นอกจากความเสี่ยงด้านการแข่งขันที่หลายอุตสาหกรรมต้องเผชิญแล้ว ยังมีข้อกังวลทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องอีกด้วย แม้ว่าความก้าวหน้าของ AI สามารถยกระดับอุตสาหกรรมการแพทย์ให้สูงขึ้นได้อย่างแน่นอน แต่หลายๆ อย่างยังคงต้องการการวิจัยและการปรับปรุง การพัฒนาทางเทคโนโลยีที่ไม่เพียงพอและความผันผวนอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานได้ 

อีกประการหนึ่ง ข้อมูลทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องนั้นเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับความเป็นส่วนตัว ปัญหาต่างๆ เช่น การรั่วไหลของข้อมูลและความปลอดภัยของข้อมูลจะเป็นปัญหาหลักสำหรับนักลงทุน   

ในขณะเดียวกัน ต้นทุนของการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทต่างๆ เนื่องจากต้นทุนของการวิจัยและพัฒนาทางการแพทย์นั้นค่อนข้างสูงเสมอเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ควบคู่ไปกับการลองผิดลองถูกอย่างต่อเนื่อง  

การรวมเทคโนโลยี AI องค์กรทางการแพทย์ และบริษัทต่างๆ เข้าด้วยกันอาจไม่สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในอนาคตอันใกล้ นอกเหนือจากนี้ บริษัทต่างๆ จะเผชิญกับประเด็นพื้นฐาน จากการสาธารณสุข AI ในแง่ของการสร้างรายได้ 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ปี 2023 ยังคงเป็นปีแห่งอุตสาหกรรมสาธารณสุข AI เนื่องจากเชื่อว่าอุตสาหกรรมนี้จะเป็นการลงทุนแนวใหม่ แม้ว่าตลาดจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและมีความผันผวนอย่างมาก แต่เราก็ควรติดตามอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาเช่นนี้ด้วย 

| เกี่ยวกับ Doo Prime       

เครื่องมือการซื้อขายของเรา     

หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น    

Doo Prime เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ระดับนานาชาติภายใต้บริษัท Doo Group ที่ให้นักลงทุนมืออาชีพได้ซื้อขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีหุ้น ปัจจุบัน Doo Prime มอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีที่สุดให้ลูกค้ามากกว่า 90,000 คน โดยมีอัตราการซื้อขายเฉลี่ย 51,223 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน    

Doo Prime มีใบอนุญาตจากเซเชลส์ เมอริเชียส วานูอาตู โดยมีสำนักงานในดัลลัส ซิดนีย์ สิงคโปร์ ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ และอีกหลายสำนักงานทั่วโลก     

ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่สมบูรณ์แบบ พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และทีมที่มีประสบการณ์ Doo Prime ให้ประสบการณ์การซื้อขายที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ให้ราคาการซื้อขายที่ดี รวมไปถึงวิธีการฝาก-ถอนที่รับรอง 10 สกุลเงิน อีกทั้ง Doo Prime ยังให้การบริการลูกค้าในหลากหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมง และยังสามารถทำการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์ม MT4, MT5, TradingView, และ InTrade ที่มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 10,000 รายการ     

วิสัยทัศน์และภารกิจของ Doo Prime คือการเป็นองค์กรเทคโนโลยีการเงินในฐานะโบรกเกอร์ด้านการลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับโลก     

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Doo Prime โปรดติดต่อ     

โทรศัพท์     
ยุโรป : +44 11 3733 5199       
เอเชีย : +852 3704 4241        
เอเชีย – สิงคโปร์: +65 6011 1415       
เอเชีย – จีน : +86 400 8427 539         

อีเมล   
ฝ่ายบริการด้านเทคนิค th.support@dooprime.com       
ฝ่ายขาย th.sales@dooprime.com      

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)        

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)      

บทความนี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement) ปรากฏอยู่ เช่นคำว่า “คาดการณ์ว่า” “เชื่อว่า” “ต่อไป” “สามารถ” “ประมาณ” “คาดว่า” “หวังว่า” “ตั้งใจว่า” “อาจจะ” “วางแผนว่า” “มีแนวโน้มว่า” “คาดเดาว่า” “ควรจะ” หรือ “จะ” หรือข้อความอื่น ๆ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในข้อความที่ไม่มีคำลักษณะนี้ปรากฏอยู่มิได้แสดงว่าข้อความเหล่านี้ไม่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความเกี่ยวกับความคาดหวัง ความเชื่อ แผนการ จุดประสงค์ ข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์ในอนาคต และการกระทำในอนาคตของ Doo Prime จะเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต       

Doo Prime ใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตอ้างอิงมาจากข้อมูลปัจจุบันที่มีอยู่ ความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผน Doo Prime เชื่อว่าความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผนเหล่านั้นสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการคาดหมายและเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สามารถรับรู้และไม่สามารถรับรู้ได้ แต่หลายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของ Doo Prime ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ และการกระทำที่แตกต่างจากที่ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้แสดงออกหรือแสดงนัยไว้      

Doo Prime ไม่รับรองหรือรับประกันความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง หรือความสมบูรณ์ของข้อความเหล่านั้น Doo Prime ไม่มีหน้าที่ส่งข้อมูลหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้  

การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง     

การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ การลงทุนด้านนี้เกี่ยวข้องกับมาร์จินและเลเวอเรจ ซึ่งการลงทุนจำนวนเล็กน้อยอาจส่งผลประทบมากได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย     

โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับ Doo Prime หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ข้อมูลข้อตกลงการทำธุรกรรมและการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง 

ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย     

ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล