นักลงทุน ‘Big Short’ เดิมพัน 1.6 พันล้านดอลลาร์ต่อสภาวะตลาดหุ้นล้ม ถึงเวลาตื่นตระหนกแล้วหรือไม่

2023-08-24 | Big Short ,Michael Burry ,ตลาดหุ้น ,หุ้น

Michael Burry MD คือนักลงทุนชื่อดังที่อยู่ในหนังเรื่อง ‘The Big Short’ เป็นผู้ทำนายวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008 เพิ่งเข้า Short ตลาด S&P 500 และ Nasdaq มูลค่าถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  

มุมมองเชิงบวกที่มีต่อ AI เพิ่งถูกลดทอนลงจากความ Hawkish ของธนาคารกลางสหรัฐ สถานะ Short ครั้งใหญ่ของ Burry ครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามใหม่เกี่ยวกับความยั่งยืนของแรงซื้อในภาวะกระทิงในปัจจุบัน 

ตลาดหุ้นกำลังจะล่มสลายหรือไม่? ถึงเวลาที่จะต้องตื่นตระหนกแล้วหรือยัง? หรือตลาดกำลังประสบกับการปรับฐานชั่วคราว? 

ในบทความนี้ เราจะสำรวจปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้น และเราจะประเมินว่าสถานะ Short ของ Michael Burry เป็นการเทรดที่รอบคอบหรือไม่ นอกจากนี้เราจะเน้นและวิเคราะห์เกี่ยวกับตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่นักลงทุนจำเป็นต้องจับตามอง 

พอร์ตฟอลิโอการลงทุนของ Michael Burry

Michael Burry ในภาพยนตร์ The Big Short แสดงโดย Christian Bale ในปี 2015 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้บอกเล่าเรื่องราวที่ Burry ทำเงินกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐจากการเดิมพันกับตลาดบ้านก่อนที่จะเกิดวิกฤติทางการเงินในปี 2008  

นอกจากความสำเร็จของเขาในปี 2008 แล้ว ผลงานกองทุนเฮดจ์ฟันของ Michael Burry ยังสร้างผลตอบแทนเป็นบวกได้ในระยะยาว สิ่งนี้ทำให้เขามีความน่าเชื่อถือมากพอที่จะทำให้นักลงทุนพิจารณาสถานะ Short ของเขาใน SPY และ Invesco QQQ 

Burry ได้เตือนถึงความเป็นไปได้ของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในปี 2023 อยู่หลายครั้ง เขาเป็นที่รู้จักจากรูปแบบการลงทุนแนว Contrarian และเขาไม่กลัวที่จะเดิมพันตรงกันข้ามกับความเห็นส่วนใหญ่ของตลาด 

ช่วงเวลาก่อนที่จะเข้าซื้อตำแหน่ง Short เป็นจำนวน 93% ของพอร์ตโฟลิโอของเขา Scion Asset Management ของ Michael Burry ได้ขายหุ้นจำนวนมากใน Alibaba Group, Zoom Video Communication, JD.com Inc และอื่นๆ อีกมากมาย 

นี่อาจเป็นสัญญาณความเร่งด่วนของ Burry หรือว่า Burry เห็นอะไรที่คนอื่นไม่เห็น? 

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ นักลงทุนไม่ควรเทรดตามกลยุทธ์การลงทุนในปัจจุบันของ Burry โดยไม่หวังผล FOMO (กลัวว่าจะพลาด) เราควรจำไว้ว่าเขาเริ่มขายหลักทรัพย์การจำนองค้ำประกันในปี 2005 สามปีก่อนเกิดวิกฤติ ซึ่งหมายความว่าจังหวะของเขาไม่ได้สมบูรณ์แบบมากนัก และเขาจำเป็นต้องทนกับการขาดทุนเป็นเวลาหลายปีก่อนที่การคาดการณ์ของเขาจะเป็นจริง  

“ตลาดสามารถคงความไม่มีเหตุผลได้นานกว่าที่คุณจะสามารถทนได้” 

John Maynard Keynes 

AI อยู่ที่ใด ในเวลาที่เราต้องการมากที่สุด

ความเชื่อมั่นที่ขับเคลื่อนโดย AI ได้เปลี่ยนจาก Extreme Greed เป็น Fear ในเวลาเพียงไม่กี่วัน เนื่องจาก NASDAQ ลดลงเพียง 5% จากระดับสูงสุดในปีนี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อความเชื่อมั่นนี้อาจเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับตลาด โดยสื่อว่าโมเมนตัมของ AI ยังคงมีอยู่ และการลงครั้งนี้เป็นเพียงแค่พักฐานก่อนที่จะเกิดภาวะกระทิงขึ้นอีกครั้ง นักลงทุนที่คิดต่าง เช่น Michael Burry เชื่อว่าโมเมนตัมของ AI ได้เริ่มลดลงแล้ว และนี่เป็นสัญญาณว่าตลาดใกล้จะถึงจุดสูงสุด 

อย่างไรก็ตาม หากเราย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ ตลาดมีการปรับฐานที่แข็งแรงประมาณ 9% ก่อนที่จะพุ่งสูงขึ้นเกือบ 20% เราจะได้เห็นสถานการณ์ที่คล้ายกันอีกครั้งหรือไม่? 

ปัจจัยใดที่อาจกระตุ้นให้เกิดการเทขายในตลาดหุ้น

ปัญหาหนี้รวมกับอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น

ข้อกังวลที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับนักลงทุนคือระดับหนี้คงค้างในปัจจุบัน 

รัฐบาลสหรัฐฯ มีหนี้อยู่ 32.7 ล้านล้านดอลลาร์ และหนี้ทั่วโลกกำลังเข้าใกล้ 100 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หนี้ระดับนี้ได้ทำลายสถิติมากที่สุด และโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็จะเพิ่มขึ้นทุกวัน ตราบใดที่อัตราดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

งบดุลของ Fed ที่ลดลง

ในช่วงวิกฤตการเงินปี 2008 ระบบการเงินทั่วโลกมีความเสี่ยงที่จะล่มสลาย 

Fed ต้องเข้าแทรกแซงเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มดำเนินนโยบายการเงินที่เรียกว่า Quantitative Easing (QE) 

โดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาจะอัดฉีดสภาพคล่องให้กับธนาคาร บริษัท หุ้น พันธบัตร หรือในด้านอื่น ๆ ของเศรษฐกิจ เมื่อมีความเสี่ยงบางอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นต่อเสถียรภาพของระบบการเงิน 

การแทรกแซงครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์/มีนาคมของปีนี้ เมื่อ Silicon Valley และธนาคารรายใหญ่อื่นๆ ล่มละลาย Fed ได้เข้ามาแทรกแซงสภาพคล่องเพื่อพยุงตลาด 

อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์นั้น Fed ก็เริ่มดึงสภาพคล่องออกจากงบดุลอีกครั้งตามที่ประธาน Powell ให้สัญญาไว้ในตอนแรก การไหลออกของสภาพคล่องนี้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้และสภาพคล่องได้ลดลงประมาณ 5% หาก Fed ยังคงลดยอดเงินคงเหลือและเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ปัญหาใหม่ในระบบจะเกิดขึ้นอีกได้ 

เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ พวกเขาจะเข้ามาแทรกแซงอีกครั้งหรือไม่? ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะเข้ามาช่วยอยู่เสมอ 

หาก Fed ไม่ทำ ระดับหนี้ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราดอกเบี้ย และการลดงบดุลอาจส่งผลลบต่อตลาดหุ้นได้ 

ตัวชี้วัดที่สำคัญ

น้ำมันดิบ WTI 

ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมากกว่า 20% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และความเสี่ยงที่ยังคงอยู่ในระดับสูง (อ่านบทความเต็มของเราเกี่ยวกับ WTI Oil เพื่อดูการวิเคราะห์เชิงลึกเพิ่มเติม

หากราคาน้ำมันยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป อาจเร่งอัตราเงินเฟ้ออีกครั้งและบังคับให้ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อจากราคาของน้ำมัน 

หากสถานการณ์นี้เกิดขึ้น โอกาสที่ตลาดหุ้นจะพังก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก 

ดัชนีดอลลาร์ (DXY) 

มีสองสาเหตุหลักที่ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 

  1. อัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนที่สูงขึ้น
  2. ปริมาณเงินที่ลดลง 

หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและปริมาณเงินยังคงลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดที่เคยได้บันทึกไว้ จะทำให้ DXY พุ่งสูงขึ้น! สิ่งนี้อาจทำให้เกิดภาวะเงินฝืดซึ่งอาจนำไปสู่การเทขายหุ้นครั้งใหญ่

ดัชนี Volatility Index (VIX) 

VIX เป็นตัวบ่งชี้ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าซึ่งสะท้อนถึงความรู้สึกของนักลงทุนและวัดความคาดหวังเกี่ยวกับความผันผวนของตลาด 

จากกราฟ VIX นักลงทุนยังไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก แต่ถ้าหากพบเหตุการณ์ความเสี่ยงเชิงระบบที่สำคัญขึ้น VIX จะต้องขึ้นให้สูงกว่า 50 

ด้วยราคาหุ้นที่เพิ่งลดลงเมื่อเร็วๆนี้ ทำให้ VIX ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 15 เป็น 18 เท่านั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเมื่อมีการปรับฐาน 

อย่างไรก็ตาม การใช้ VIX เพื่อเป็นตัวช่วยในการเทรดของคุณอาจเป็นประโยชน์อย่างมากต่อประสิทธิภาพในการเทรดของคุณ เนื่องจากคุณสามารถประเมินความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการปรับสถานะการลงทุนและใช้กลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง 

ผลประกอบการประจำฤดูกาล SPX

อ้างอิงจากข้อมูลในอดีต ตลาดหุ้นในช่วงฤดูร้อนจะแย่กว่าช่วงฤดูกาลอื่นๆ โดยมีเหตุผลสองประการสำหรับเรื่องนี้ 

ประการแรก ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนจำนวนมากลาพักร้อน จึงมีปริมาณการเทรดน้อยลง สิ่งนี้สามารถำทำให้ตลาดผันผวนมากขึ้น เนื่องจากมีผู้ซื้อและผู้ขายในตลาดน้อยลงในการรักษาเสถียรภาพราคา 

ประการที่สอง นักลงทุนไม่ชอบความเสี่ยงที่มากขึ้นในช่วงฤดูร้อน ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะเพิ่มความเสี่ยงกับการลงทุนของตัวเอง ตัวอย่างเช่น หากรายงานรายได้ไม่ตรงกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ก็อาจทำให้เกิดการขายหุ้นได้ง่าย 

ในเดือนสิงหาคมที่มีสภาพคล่องต่ำและไม่ค่อยมีข่าวมากนัก นี่อาจเป็นกราฟที่สำคัญที่สุดในการอธิบายการเคลื่อนไหวของราคาในปัจจุบัน เป็นที่รู้กันว่าเดือนมิถุนายน กรกฎาคม และสิงหาคมเป็นเดือนที่ตลาดเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ แต่ในทางกลับกัน เดือนกันยายน ปริมาณการเทรดกลับมา!

ถึงเวลาที่ต้องตื่นตระหนกแล้วหรือยัง 

ยังมีความไม่แน่นอนว่าตลาดหุ้นจะล่มสลายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงก็ยังมีอยู่ และนักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านั้น หากคุณกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดการล่มสลาย คุณอาจต้องพิจารณาการปกป้องการลงทุนของคุณ 

ตำแหน่ง Short ของ Michael Burry ใน S&P 500 ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่อาจหาญยิ่งนัก แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ปัจจัยที่เขากังวล เช่น ระดับหนี้ที่เพิ่มขึ้น งบดุลของเฟดที่ลดลง และราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ล้วนเป็นเรื่องจริงและอาจนำไปสู่การเทขายหุ้นในตลาดหุ้นในที่สุด 

ผู้ลงทุนควรพิจารณาปัจจัยทั้งหมดที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน พวกเขาควรจำไว้ว่าประวัติของ Michael Burry นั้นไม่ได้สมบูรณ์แบบ เขาอาจพูดถูกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008 แต่ในเรื่องการลงทุนอื่นๆ เขาก็ผิดพลาดเช่นกัน 

| เกี่ยวกับ Doo Prime          

เครื่องมือการซื้อขายของเรา        

หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น       

Doo Prime เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ระดับนานาชาติภายใต้บริษัท Doo Group ที่ให้นักลงทุนมืออาชีพได้ซื้อขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีหุ้น ปัจจุบัน Doo Prime มอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีที่สุดให้ลูกค้ามากกว่า 90,000 คน โดยมีอัตราการซื้อขายเฉลี่ย 51,223 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน       

Doo Prime มีใบอนุญาตจากเซเชลส์ เมอริเชียส วานูอาตู โดยมีสำนักงานในดัลลัส ซิดนีย์ สิงคโปร์ ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ และอีกหลายสำนักงานทั่วโลก        

ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่สมบูรณ์แบบ พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และทีมที่มีประสบการณ์ Doo Prime ให้ประสบการณ์การซื้อขายที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ให้ราคาการซื้อขายที่ดี รวมไปถึงวิธีการฝาก-ถอนที่รับรอง 22 สกุลเงิน อีกทั้ง Doo Prime ยังให้การบริการลูกค้าในหลากหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมง และยังสามารถทำการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์ม MT4, MT5, TradingView, และ InTrade ที่มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 10,000 รายการ        

วิสัยทัศน์และภารกิจของ Doo Prime คือการเป็นองค์กรเทคโนโลยีการเงินในฐานะโบรกเกอร์ด้านการลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับโลก        

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Doo Prime โปรดติดต่อ        

โทรศัพท์        
ยุโรป : +44 11 3733 5199          
เอเชีย : +852 3704 4241           
เอเชีย – สิงคโปร์: +65 6011 1415          
เอเชีย – จีน : +86 400 8427 539            

อีเมล      
ฝ่ายบริการด้านเทคนิค th.support@dooprime.com          
ฝ่ายขาย th.sales@dooprime.com         

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)           

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)         

บทความนี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement) ปรากฏอยู่ เช่นคำว่า “คาดการณ์ว่า” “เชื่อว่า” “ต่อไป” “สามารถ” “ประมาณ” “คาดว่า” “หวังว่า” “ตั้งใจว่า” “อาจจะ” “วางแผนว่า” “มีแนวโน้มว่า” “คาดเดาว่า” “ควรจะ” หรือ “จะ” หรือข้อความอื่น ๆ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในข้อความที่ไม่มีคำลักษณะนี้ปรากฏอยู่มิได้แสดงว่าข้อความเหล่านี้ไม่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความเกี่ยวกับความคาดหวัง ความเชื่อ แผนการ จุดประสงค์ ข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์ในอนาคต และการกระทำในอนาคตของ Doo Prime จะเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต          

Doo Prime ใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตอ้างอิงมาจากข้อมูลปัจจุบันที่มีอยู่ ความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผน Doo Prime เชื่อว่าความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผนเหล่านั้นสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการคาดหมายและเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สามารถรับรู้และไม่สามารถรับรู้ได้ แต่หลายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของ Doo Prime ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ และการกระทำที่แตกต่างจากที่ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้แสดงออกหรือแสดงนัยไว้         

Doo Prime ไม่รับรองหรือรับประกันความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง หรือความสมบูรณ์ของข้อความเหล่านั้น Doo Prime ไม่มีหน้าที่ส่งข้อมูลหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้     

การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง        

การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ การลงทุนด้านนี้เกี่ยวข้องกับมาร์จินและเลเวอเรจ ซึ่งการลงทุนจำนวนเล็กน้อยอาจส่งผลประทบมากได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย        

โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับ Doo Prime หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ข้อมูลข้อตกลงการทำธุรกรรมและการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง    

ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย        

ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล 

คลังความรู้IconBrandElement

article-thumbnail

2024-08-16 | คลังความรู้

VIX พุ่งขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างอิหร่าน-อิสราเอล:  ความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหม่ 

VIX พุ่งขึ้นสู่ระดับที่ไม่เคยพบเห็นนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยช่วง COVID ทำให้ S&P 500 ดึงกลับมา 10% และก่อให้เกิดความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง

article-thumbnail

2024-07-18 | คลังความรู้

ความเชื่อมั่นต่อการพุ่งขึ้นของหุ้น Tesla

ราคาหุ้นของ Tesla ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย […]

article-thumbnail

2024-07-11 | คลังความรู้

ทิศทางที่ไม่แน่นอนของบิทคอยน์: ฤดูหนาวของคริปโตกลับมาอีกครั้ง? 

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา บิทคอยน์และตลาดคริปโตโดยรวมต้องเผช […]