พรุ่งนี้เป็นวันแบล็คฟรายเดย์! 

วันหลังจากวันขอบคุณพระเจ้าได้กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก และถือเป็นการเริ่มต้นเทศกาลช้อปปิ้งในช่วงวันหยุด  

สำหรับผู้บริโภค วันนี้ถือเป็นวันลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ในช่วงแบล็คฟรายเดย์ ซึ่งมีคิวยาว และร้านค้าที่แน่นไปด้วยผู้คน 

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุน วันแบล็คฟรายเดย์เป็นตัวบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของยอดค้าปลีก นี่เป็นโอกาสพิเศษในการประเมินหุ้นที่เกี่ยวข้องกับแบล็กฟรายเดย์ซึ่งก็คือผู้ค้าปลีกรายใหญ่และบริษัทอีคอมเมิร์ซ 

ในบทความนี้ เราจะตรวจสอบพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วง Black Friday และผลกระทบต่อราคาหุ้นเป็นอันดับแรก ต่อมาเราเน้นหุ้น 5 อันดับแรกในวัน Black Friday เพื่อพิจารณาเพิ่มเข้าในวอชลิสต์ของคุณ 

การปฏิวัติดิจิทัลในวัน Black Friday 

โลกของการค้าปลีกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และผลการศึกษาพบว่าการช้อปปิ้งออนไลน์ถือเป็นประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบ New normal 

ผู้คนเลือกซื้อสินค้าจากที่บ้านอย่างสะดวกสบายด้วยเหตุผลหลายประการ เพราะมัน สะดวก ยืดหยุ่น และช่วยให้พวกเขาเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่มีให้เลือกมากขึ้น 

ร้านค้าแบบดั้งเดิมกำลังดิ้นรนเพื่อแข่งขันกับผู้ค้าปลีกออนไลน์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ ผู้ซื้อไม่อยากพบเจอกับฝูงชน การจราจร หรือคิวที่ยาวอีกต่อไป 

แพลตฟอร์มออนไลน์ได้มอบประสบการณ์ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น พร้อมคำแนะนำและฟีเจอร์การทดลองสินค้าแบบเสมือนจริงจากที่บ้านของคุณได้อย่างสะดวกสบาย 

โซเชียลมีเดียและผู้มีอิทธิพลก็เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อของเช่นกัน ผู้บริโภคกำลังมองหาเครือข่ายออนไลน์ของตนเพื่อหาแรงบันดาลใจและคำแนะนำ ผู้ค้าปลีกจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปนี้หากอยากจะเป็นผู้นำหรือแม้กระทั่งเข้าร่วมเทรนนี้  

การซื้อของออนไลน์ไม่ใช่แค่กระแส แต่ได้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานในพฤติกรรมผู้บริโภค ผู้ค้าปลีกที่ไม่ปรับตัวจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง 

ผู้บริโภคเลือกทางนี้แล้ว และความเป็นจริงใหม่นี้ก็ได้สะท้อนให้เห็นในราคาหุ้นของบริษัทแล้ว อนาคตของการค้าปลีกอยู่บนโลกดิจิทัลอย่างไม่ต้องสงสัย และมันก็ขึ้นอยู่กับผู้ค้าปลีกรายใหญ่เหล่านี้ที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้และสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ผู้บริโภคต้องการได้หรือไม่ 

5 อันดับหุ้น Black Friday ที่น่าจับตามอง 

นี่คือหุ้น Black Friday ที่มีแนวโน้มดี 5 ตัวที่น่าจับตามอง: 

Amazon (AMZN)

Amazon คือราชาแห่งอีคอมเมิร์ซแบบไม่ต้องสงสัย และได้เขียนกฎเกณฑ์ใหม่ของโลกการค้าปลีก ซึ่งได้เปลี่ยนวิธีการซื้อสินค้าทั่วโลก 

ผู้นำของอุตสาหกรรมนี้มีปีที่น่าทึ่ง และเราคาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างน่าประทับใจต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 

นอกจากนี้ ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซยังได้ขยายธุรกิจในส่วนของการประมวลผลแบบคลาวด์ Amazon Web Services (AWS) อย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน AWS เป็นแพลตฟอร์มการประมวลผลบนคลาวด์ชั้นนำของโลก และเป็นแหล่งรายได้รวมถึงผลกำไรหลักสำหรับ Amazon 

นอกจากนี้ Jeff Bezos ยังคงลงทุนในธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และปรับปรุงเครือข่ายการจัดส่งเพื่อให้อยู่เหนือคู่แข่ง 

เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ Amazon จึงอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป 

นักลงทุนควรจับตาดูหุ้น Amazon (AMZN) อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะทำได้ดีกว่าตลาด หุ้น AMZN ได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 80% ในปีนี้ และ Black Friday อาจดันราคาให้สูงขึ้นไปอีก 

Shopify (SHOP) 

Shopify ซึ่งคล้ายกับ Amazon มีปีที่ยอดเยี่ยมและสามารถทำได้ดีกว่านี้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 

บริษัทได้ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเพื่อปรับปรุงระบบการเงิน รวมถึงมีการเลิกจ้างและการขายธุรกิจโลจิสติกส์ ตอนนี้กลับมามุ่งเน้นไปที่อีคอมเมิร์ซอีกครั้ง และใช้พลังของ AI เพื่อทำให้สิ่งต่าง ๆ ง่ายขึ้นสำหรับผู้ค้า 

นอกจากนี้ Shopify ยังหวังที่จะดึงดูดลูกค้าระดับองค์กรมากขึ้นด้วยการนำเสนอแพลตฟอร์มที่ปรับขนาดได้และปรับแต่งได้ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะของพวกเขาได้ 

ปริมาณธุรกรรมรวม (GTV) ของบริษัทกำลังเติบโต และเราคาดว่า Shopify จะยังคงเติบโตต่อไปจนถึงช่วง Black Friday ซึ่งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ดีที่สุดของบริษัทในอดีต 

ส่งผลให้ราคาหุ้นของ Shopify มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นหลัง Black Friday เช่นกัน อย่างน้อยที่สุด นักลงทุนควรมีหุ้น Shopify (SHOP) อยู่ในวอชลิสต์ เนื่องจากหุ้นได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% แล้วในปี 2023 

Target (TGT)

Target เป็นหนึ่งในร้านค้าปลีกชั้นนำที่ลงทุนมหาศาลในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ 

บริษัทมีปีที่แข็งแกร่งและคาดว่าจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผู้ค้าปลีกที่มีชื่อเสียงรายนี้มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงกลยุทธ์ Omnichannel ซึ่งนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นและความพึงพอใจของลูกค้าที่มากขึ้น 

นอกจากนี้ ยักษ์ใหญ่ด้านการค้าปลีกยังได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและขยายการนำเสนอผลิตภัณฑ์อีกด้วย ความพยายามเหล่านี้ได้รับผลสำเร็จ เนื่องจากพวกเขาวางตำแหน่งบริษัทไว้อย่างดีเพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป และเราคาดว่ายอดขายจะออกมาแข็งแกร่งในทุกช่องทางในช่วงแบล็คฟรายเดย์ 

แม้ว่าหุ้นจะลดลง 25% ในปีนี้ แต่นักลงทุนควรพิจารณาถึงโอกาสในการซื้อโดยการเพิ่มหุ้น Target (TGT) เข้าไปในวอชลิสต์ ยอดขายที่แข็งแกร่งในช่วงแบล็คฟรายเดย์อาจช่วยเพิ่มราคาหุ้นได้ ทำให้เป็นการลงทุนที่น่าสนใจ 

Walmart (WMT)

Walmart ยังคงเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมค้าปลีก โดยมีฐานลูกค้าประจำและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย  

บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่รายนี้มีปีที่มั่นคงและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 

บริษัทได้เข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์เพื่อขยายการนำเสนอทางออนไลน์ รวมถึงการซื้อแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Jet.com  

นอกจากนี้ ผู้นำอุตสาหกรรมรายนี้ยังลงทุนอย่างมากในกลยุทธ์ Omnichannel ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ราบรื่นให้กับลูกค้าในทุกช่องทาง ซึ่งรวมถึงการขยายบริการรับและจัดส่งของชำ รวมถึงการปรับปรุงร้านค้าเพื่อให้ช้อปปิ้งออนไลน์ได้มากขึ้น 

นอกจากนี้ Walmart ยังได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง และคาดว่าจะเห็นยอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลแบล็คฟรายเดย์และเทศกาลช้อปปิ้งในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึง 

หุ้น Black Friday อีกตัวที่นักลงทุนต้องจับตามองคือหุ้นของ Walmart ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ในปีนี้ โดยมีแนวโน้มกระทิงอย่างชัดเจน 

Macy’s (M)

Macy’s เป็นห้างสรรพสินค้าในเครือที่ประสบปัญหาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา 

สินค้าที่ล้าสมัยและที่ตั้งร้านค้าที่ไม่ดีได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก 

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ใช้กลยุทธ์ในการพลิกฟื้นหลายประการ ได้แก่

• ปิดร้านที่ขายไม่ได้ตามเป้า 
• ใช้เงินลงทุนในอีคอมเมิร์ซมหาศาล 
• รีเฟรชผลิตภัณฑ์ด้วยการนำเสนอแบรนด์ใหม่และสินค้าที่อินเทรนด์
• ลดต้นทุน 

ความพยายามเหล่านี้ช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่และเพิ่มยอดขาย 

แม้ว่าราคาหุ้นของ Macy จะลดลงอย่างมากถึง 35% ในปีนี้ แต่นักลงทุนควรพิจารณาเพิ่มหุ้น (M) เข้าไปในวอชลิสต์เพื่อรอยอดขายในวัน Black Friday 

ดังนั้นกลยุทธ์การพลิกฟื้นอย่างต่อเนื่องเหล่านี้อาจช่วยเพิ่มยอดขายและราคาหุ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 

กลยุทธ์การลงทุนในหุ้น Black Friday 

ผู้ลงทุนควรพิจารณากลยุทธ์ต่อไปนี้เมื่อลงทุนในหุ้น Black Friday: 

• ดำเนินการวิเคราะห์อย่างละเอียด: วิเคราะห์สถานะทางการเงินและกลยุทธ์ของผู้ค้าปลีกแต่ละรายก่อนตัดสินใจลงทุน 
• กระจายพอร์ตการลงทุนของคุณ: กระจายการลงทุนของคุณไปยังภาคส่วนต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยง 
• ใช้มุมมองระยะยาว: ยอดขายในวัน Black Friday อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในระยะสั้น แต่ผลการดำเนินงานในระยะยาวมีความสำคัญมากกว่า 
• พิจารณาสภาวะตลาด: สภาวะตลาดโดยรวมสามารถมีบทบาทต่อประสิทธิภาพของหุ้นได้ ดังนั้นควรพิจารณาแนวโน้มของตลาดในวงกว้าง 

| เกี่ยวกับ Doo Prime            

เครื่องมือการซื้อขายของเรา          

หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น         

Doo Prime เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ระดับนานาชาติภายใต้บริษัท Doo Group ที่ให้นักลงทุนมืออาชีพได้ซื้อขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีหุ้น ปัจจุบัน Doo Prime มอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีที่สุดให้ลูกค้ามากกว่า 90,000 คน โดยมีอัตราการซื้อขายเฉลี่ย 51,223 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน         

Doo Prime มีใบอนุญาตจากเซเชลส์ เมอริเชียส วานูอาตู โดยมีสำนักงานในดัลลัส ซิดนีย์ สิงคโปร์ ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ และอีกหลายสำนักงานทั่วโลก          

ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่สมบูรณ์แบบ พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และทีมที่มีประสบการณ์ Doo Prime ให้ประสบการณ์การซื้อขายที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ให้ราคาการซื้อขายที่ดี รวมไปถึงวิธีการฝาก-ถอนที่รับรอง 22 สกุลเงิน อีกทั้ง Doo Prime ยังให้การบริการลูกค้าในหลากหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมง และยังสามารถทำการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์ม MT4, MT5, TradingView, และ InTrade ที่มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 10,000 รายการ          

วิสัยทัศน์และภารกิจของ Doo Prime คือการเป็นองค์กรเทคโนโลยีการเงินในฐานะโบรกเกอร์ด้านการลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับโลก          

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Doo Prime โปรดติดต่อ          

โทรศัพท์          
ยุโรป : +44 11 3733 5199            
เอเชีย : +852 3704 4241             
เอเชีย – สิงคโปร์: +65 6011 1415            
เอเชีย – จีน : +86 400 8427 539              

อีเมล        
ฝ่ายบริการด้านเทคนิค th.support@dooprime.com            
ฝ่ายขาย th.sales@dooprime.com           

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)             

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)           

บทความนี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement) ปรากฏอยู่ เช่นคำว่า “คาดการณ์ว่า” “เชื่อว่า” “ต่อไป” “สามารถ” “ประมาณ” “คาดว่า” “หวังว่า” “ตั้งใจว่า” “อาจจะ” “วางแผนว่า” “มีแนวโน้มว่า” “คาดเดาว่า” “ควรจะ” หรือ “จะ” หรือข้อความอื่น ๆ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในข้อความที่ไม่มีคำลักษณะนี้ปรากฏอยู่มิได้แสดงว่าข้อความเหล่านี้ไม่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความเกี่ยวกับความคาดหวัง ความเชื่อ แผนการ จุดประสงค์ ข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์ในอนาคต และการกระทำในอนาคตของ Doo Prime จะเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต            

Doo Prime ใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตอ้างอิงมาจากข้อมูลปัจจุบันที่มีอยู่ ความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผน Doo Prime เชื่อว่าความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผนเหล่านั้นสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการคาดหมายและเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สามารถรับรู้และไม่สามารถรับรู้ได้ แต่หลายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของ Doo Prime ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ และการกระทำที่แตกต่างจากที่ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้แสดงออกหรือแสดงนัยไว้           

Doo Prime ไม่รับรองหรือรับประกันความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง หรือความสมบูรณ์ของข้อความเหล่านั้น Doo Prime ไม่มีหน้าที่ส่งข้อมูลหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้       

การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง          

การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ การลงทุนด้านนี้เกี่ยวข้องกับมาร์จินและเลเวอเรจ ซึ่งการลงทุนจำนวนเล็กน้อยอาจส่งผลประทบมากได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย          

โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับ Doo Prime หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ข้อมูลข้อตกลงการทำธุรกรรมและการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง      

ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย          

ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล