เป็นเรื่องปกติของโลกการลงทุนที่นักลงทุนมักใช้ข้อมูลผลประกอบการบริษัทเพื่อช่วยตัดสินใจในการเทรด 

รายงานผลประกอบการบริษัทเป็นข้อมูลที่มีค่าสำหรับนักลงทุน เนื่องจากมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัทโดยละเอียด รวมทั้งแนวโน้มการเติบโตของบริษัท และแผนการในอนาคต 

หากนักลงทุนสามารถตรวจสอบรายงานผลประกอบการของบริษัทได้ นักลงทุนจะสามารถเข้าใจสถานะทางการเงินของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างชาญฉลาด  อีกทั้ง รายงานผลประกอบการอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาหุ้นของบริษัท เนื่องจากนักลงทุนมักจะปรับความคาดหวังของการลงทุนตามข้อมูลที่พวกเขาได้รับ 

ในบทความนี้ เราจะศึกษาวิธีใช้ประโยชน์จากรายงานผลประกอบการของบริษัท เพื่อทำให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น 

1. หาบริษัทที่มีประสิทธิภาพสูง

ประโยชน์หลักประการหนึ่งของผลประกอบการบริษัท คือ เราสามารถระบุได้ว่าบริษัทใดที่มีศักยภาพสูงในตลาด นักลงทุนสามารถอ้างอิงรายงานผลประกอบการบริษัทในระยะยาวเพื่อดูได้ว่าบริษัทนี้มีศักยภาพทีดีกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันตลอดหรือไม่ โดยบริษัทที่มีรายได้สูงกว่าที่คาดไว้อย่างสม่ำเสมอ เป็นตัวบ่งชี้สถานะทางการเงินที่มั่นคงและมีศักยภาพในการเติบโต นักลงทุนสามารถใช้ตัวเลขนี้เพื่อสร้างพอร์ตที่แข็งแกร่งและลงทุนในหุ้นหลากหลายที่มีประวัติข้อมูลผลประกอบการดีเยี่ยม 

ในขณะเดียวกัน นักลงทุนสามารถค้นหาบริษัทที่มีประวัติเพิ่มการจ่ายเงินปันผล เนื่องจากเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าแม้จะเป็นช่วงที่ตลาดผันผวน บริษัทก็จะสามารถเป็นแหล่งรายได้ที่น่าเชื่อถือสำหรับนักลงทุนได้  ซึ่งสิ่งนี้ช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตโดยรวม เนื่องจากการจ่ายเงินปันผลสามารถช่วยชดเชยการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจากราคาหุ้นที่ลดลงได้ 

ลองพิจารณาบริษัท Apple Inc. (AAPL) ซึ่งมีรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งและมีประวัติเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น ข้อมูลรายงานผลประกอบการของ Apple ทำให้นักลงทุนรับรู้ได้ว่าการลงทุนที่บริษัทนี้จะเป็นการลงทุนที่มีศักยภาพสูง และสามารถตัดสินใจเพิ่มลงในพอร์ตการลงทุนของพวกเขาได้ด้วย 

ตามรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สี่ของ Apple ในปี 2022 บริษัท Apple ประกาศตัวเลขรายรับประจำเดือนกันยายน ที่ 90.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี และกำไรต่อหุ้นปรับลดประจำไตรมาสอยู่ที่ 1.29 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปี รายรับต่อปีอยู่ที่ 394.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบปีต่อปี และกำไรต่อปีต่อหุ้นปรับลดอยู่ที่ 6.11 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบปีต่อปี 

2. ระบุได้ว่าบริษัทใดมีหุ้นที่มีมูลค่าต่ำ 

ประโยชน์อีกประการหนึ่งของการตรวจสอบรายผลประกอบการบริษัทคือสามารถระบุหุ้นที่มีมูลค่าต่ำได้ 

เมื่อผลประกอบการดีกว่าที่คาดไว้ แต่ราคาหุ้นไม่เพิ่มขึ้น อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดยังไม่ได้ตั้งราคาเต็มศักยภาพการเติบโตของบริษัท ดังนั้น เมื่อนักลงทุนสามารถระบุหุ้นที่มีมูลค่าต่ำเกินไปได้ เราอาจสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้ด้วยการลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสเติบโต กลยุทธ์นี้อาจใช้ได้ผลกับนักลงทุนที่ต้องการมองการลงทุนในระยะยาว 

วิธีหนึ่งในการระบุหุ้นที่มีมูลค่าต่ำคืออัตราราคาตลาดต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (อัตราส่วน P/E) อัตราส่วน P/E ต่ำอาจบ่งชี้ว่าหุ้นมีมูลค่าต่ำเกินไป ในขณะที่อัตราส่วน P/E สูงอาจบ่งชี้ว่าหุ้นมีมูลค่าสูงเกินไป และเมื่อรวมข้อมูลนี้เข้ากับปัจจัยอื่นๆ เช่น การเติบโตของรายได้และแนวโน้มของตลาด นักลงทุนสามารถระบุหุ้นที่มีมูลค่าต่ำซึ่งมีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนที่แข็งแกร่งในระยะยาว ตัวอย่างเช่น ลองพิจารณาบริษัท Amazon.com, Inc. (AMZN) ซึ่งมีประวัติการซื้อขายที่อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) สูงเนื่องจากแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม หากบริษัทรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งและราคาหุ้นยังคงนิ่ง นักลงทุนอาจมองว่าหุ้น Amazon ถูกประเมินมูลค่าต่ำเกินไปจากศักยภาพการเติบโตในอนาคต 

3. ระบุความเสี่ยง 

นอกเหนือจากการดูประสิทธิภาพของบริษัทแล้ว รายงานผลประกอบการของบริษัทยังสามารถระบุความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นของบริษัทด้วย ตัวอย่างเช่น รายได้ที่ลดลงอาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลังเผชิญกับอุปสรรคบางอย่างหรือการเติบโตของบริษัทมีแนวโน้มอ่อนแอลง 

หากเราสามารถระบุพื้นที่ความเสี่ยงได้ นักลงทุนสามารถปรับพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อลดความเสี่ยงต่อบริษัทหรือภาคส่วนเหล่านี้ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้ นอกจากนี้ รายงานผลประกอบการยังอาจมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับระดับหนี้สิน สภาพคล่อง และปัจจัยทางการเงินที่สำคัญอื่นๆ ของบริษัท ที่อาจส่งผลต่อบริษัทในระยะยาว 

นักลงทุนควรให้ความสนใจกับข้อมูลระดับหนี้และสภาพคล่องของบริษัทด้วย อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสูงอาจบ่งชี้ว่าบริษัทมีหนี้สินจำนวนมาก และอาจมีปัญหาในการชำระหนี้ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ นอกจากนี้ หากบริษัทมีสภาพคล่องจำกัด บริษัทอาจมีความเสี่ยงต่อภาวะช็อกทางการเงิน เช่น รายได้ลดลงอย่างกะทันหัน หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยไม่คาดคิด 

ตัวอย่างเช่น พิจารณาบริษัทในภาคการค้าปลีกที่มีผลประกอบการลดลง โดยมีสาเหตุมาจากการแข่งขันกับยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ อย่าง Amazon นี่อาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลังเผชิญกับอุปสรรคสำคัญในอุตสาหกรรม และนักลงทุนอาจต้องเลือกลดความเสี่ยงในภาคการค้าปลีก 

4. ทราบข้อมูลแนวโน้มตลาด 

รายงานรายได้ของบริษัทได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มตลาดโดยรวม เพราะว่าบริษัทหลายแห่งมักจะพูดถึงปัจจัยต่างๆ เช่น พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค อัตราเงินเฟ้อ หรือนโยบายการค้าที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของตน 

นักลงทุนสามารถปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสการลงทุนใหม่ หรือลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น บริษัทที่มีข้อมูลระบุถึงความต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นๆ ที่เพิ่มขึ้น อาจบ่งบอกถึงแนวโน้มใหม่ในอุตสาหกรรมนั้นๆ นักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อหาข้อมูลของบริษัทอื่นที่น่าจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มนี้และปรับพอร์ตการลงทุนของพวกเขาให้สอดคล้องกัน 

ลองดูอีกตัวอย่างหนึ่ง หากบริษัทเทคโนโลยีรายงานผลประกอบการที่ไปได้ดีจากบริการคลาวด์คอมพิวติ้ง ชี้ว่าคลาวด์คอมพิวติ้งเป็นเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ในภาคส่วนเทคโนโลยี ดังนั้น นักลงทุนอาจเพิ่มเงินลงทุนต่อบริษัทที่ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง 

ในทำนองเดียวกัน หากบริษัทรายงานถึงระดับความต้องการผลิตภัณฑ์ในระดับภูมิภาคหรือในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพิ่มขึ้น ก็อาจบ่งชี้ว่าแนวโน้มของตลาดได้ขยายใหญ่ขึ้น นักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อหาข้อมูลของบริษัทอื่นๆ ที่อาจได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเดียวกันและปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกัน 

ในทางกลับกัน หากบริษัทรายงานต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นหรือปัญหาด้านกฎระเบียบ สิ่งนี้อาจส่งสัญญาณถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในภาคส่วนเดียวกัน ดังนั้น รายงานผลประกอบการทำให้นักลงทุนสามารถรับทราบข้อมูลแนวโน้มตลาดที่กว้างยิ่งขึ้นและตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้นได้ 

5. ตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาด 

ประโยชน์สูงสุดของรายงานผลประกอบการของบริษัทคือ ทำให้นักลงทุนมีความสามารถในการตัดสินใจลงทุนอย่างรอบรู้มากขึ้น 

เมื่อรวมข้อมูลรายงานนี้เข้ากับปัจจัยอื่นๆ เช่น การประเมินมูลค่า แนวโน้มของตลาด และการจัดการความเสี่ยง นักลงทุนสามารถสร้างพอร์ตโฟลิโอของหุ้นที่มีความหลากหลายที่สามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดและให้การเติบโตในระยะยาวได้ ด้วยวิธีนี้ นักลงทุนสามารถใช้รายงานผลประกอบการเพื่อหาข้อมูลของบริษัทที่มีแนวโน้มจะทำผลงานได้ดีกว่าตลาด หรือเพื่อหลีกเลี่ยงบริษัทที่เผชิญกับอุปสรรคสำคัญ ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจอย่างรอบคอบมากขึ้นเกี่ยวกับวิธีการจัดสรรเงินลงทุนของตน 

พิจารณารายงานผลประกอบการบริษัท เพื่อการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด สร้างผลตอบแทนสูงสุด 

รายงานผลประกอบการของบริษัทเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาด โดยให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานภาพทางการเงินของบริษัท ศักยภาพในการเติบโต และแนวโน้มของตลาดโดยรวม 

นักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อระบุบริษัทที่มีประสิทธิภาพสูง หุ้นมูลค่าต่ำ พื้นที่เสี่ยง และโอกาสในตลาดเกิดใหม่ นักลงทุนสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น และอาจจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาวด้วย 

โดยสรุป นักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากการตรวจสอบรายงานผลประกอบการของบริษัทได้ด้วยวิธีต่อไปนี้ 

• เพื่อหาบริษัทที่มีประสิทธิภาพสูง มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีศักยภาพในการเติบโต 
• เพื่อหาว่าบริษัทที่ใดมีหุ้นมูลค่าต่ำที่มีโอกาสในการเติบโต และสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น 
• ระบุความเสี่ยง และปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงต่อบริษัทหรือภาคส่วนที่มีช่องโหว่บางส่วน 
• รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดและโอกาสในการลงทุน 
• ตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาดมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ 

ด้วยรายงานผลประกอบการบริษัท การค้นคว้าข้อมูลการลงทุน และการวิเคราะห์ตลาด จะสามารถช่วยนักลงทุนสร้างพอร์ตที่หากหลายและลดความเสี่ยง เพิ่มผลตอบแทน และสร้างความสำเร็จทางการเงินระยะยาวได้ 

| เกี่ยวกับ Doo Prime       

เครื่องมือการซื้อขายของเรา     

หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น    

Doo Prime เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ระดับนานาชาติภายใต้บริษัท Doo Group ที่ให้นักลงทุนมืออาชีพได้ซื้อขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีหุ้น ปัจจุบัน Doo Prime มอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีที่สุดให้ลูกค้ามากกว่า 90,000 คน โดยมีอัตราการซื้อขายเฉลี่ย 51,223 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน    

Doo Prime มีใบอนุญาตจากเซเชลส์ เมอริเชียส วานูอาตู โดยมีสำนักงานในดัลลัส ซิดนีย์ สิงคโปร์ ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ และอีกหลายสำนักงานทั่วโลก     

ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่สมบูรณ์แบบ พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และทีมที่มีประสบการณ์ Doo Prime ให้ประสบการณ์การซื้อขายที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ให้ราคาการซื้อขายที่ดี รวมไปถึงวิธีการฝาก-ถอนที่รับรอง 10 สกุลเงิน อีกทั้ง Doo Prime ยังให้การบริการลูกค้าในหลากหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมง และยังสามารถทำการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์ม MT4, MT5, TradingView, และ InTrade ที่มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 10,000 รายการ     

วิสัยทัศน์และภารกิจของ Doo Prime คือการเป็นองค์กรเทคโนโลยีการเงินในฐานะโบรกเกอร์ด้านการลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับโลก     

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Doo Prime โปรดติดต่อ     

โทรศัพท์     
ยุโรป : +44 11 3733 5199       
เอเชีย : +852 3704 4241        
เอเชีย – สิงคโปร์: +65 6011 1415       
เอเชีย – จีน : +86 400 8427 539         

อีเมล   
ฝ่ายบริการด้านเทคนิค th.support@dooprime.com       
ฝ่ายขาย th.sales@dooprime.com      

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)        

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)      

บทความนี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement) ปรากฏอยู่ เช่นคำว่า “คาดการณ์ว่า” “เชื่อว่า” “ต่อไป” “สามารถ” “ประมาณ” “คาดว่า” “หวังว่า” “ตั้งใจว่า” “อาจจะ” “วางแผนว่า” “มีแนวโน้มว่า” “คาดเดาว่า” “ควรจะ” หรือ “จะ” หรือข้อความอื่น ๆ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในข้อความที่ไม่มีคำลักษณะนี้ปรากฏอยู่มิได้แสดงว่าข้อความเหล่านี้ไม่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความเกี่ยวกับความคาดหวัง ความเชื่อ แผนการ จุดประสงค์ ข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์ในอนาคต และการกระทำในอนาคตของ Doo Prime จะเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต       

Doo Prime ใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตอ้างอิงมาจากข้อมูลปัจจุบันที่มีอยู่ ความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผน Doo Prime เชื่อว่าความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผนเหล่านั้นสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการคาดหมายและเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สามารถรับรู้และไม่สามารถรับรู้ได้ แต่หลายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของ Doo Prime ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ และการกระทำที่แตกต่างจากที่ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้แสดงออกหรือแสดงนัยไว้      

Doo Prime ไม่รับรองหรือรับประกันความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง หรือความสมบูรณ์ของข้อความเหล่านั้น Doo Prime ไม่มีหน้าที่ส่งข้อมูลหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้  

การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง     

การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ การลงทุนด้านนี้เกี่ยวข้องกับมาร์จินและเลเวอเรจ ซึ่งการลงทุนจำนวนเล็กน้อยอาจส่งผลประทบมากได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย     

โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับ Doo Prime หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ข้อมูลข้อตกลงการทำธุรกรรมและการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง 

ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย     

ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล