
แถลงการณ์ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เดือนกันยายน

ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) โดยระบุว่า Fed มีความมุ่งมั่น
ที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงเวลาที่กำลังเผชิญกับความท้าทายในขณะนี้ โดย Fed เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการจ้างงานให้ขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพ และบรรลุเป้าหมายในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา
ท่ามกลางความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนและการใช้นโยบายสนับสนุนที่แข็งแกร่งนั้น สัญญาณบ่งชี้ถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างมาก อย่างไรก็ดี แม้ว่าภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้เริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่การพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทำให้การฟื้นตัวของธุรกิจเหล่านี้เป็นไปอย่างเชื่องช้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อได้ปรับตัวขึ้น โดยส่วนใหญ่สะท้อนถึงปัจจัยต่างๆ ในช่วงการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจ ส่วนภาวะทางการเงินโดยรวมยังคงผ่อนคลาย ซึ่งส่วนหนึ่งสะท้อนถึงมาตรการด้านนโยบายต่างๆ ที่นำมาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจัดสรรสินเชื่อให้กับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจของสหรัฐ
คณะกรรมการ FOMC พยายามหาแนวทางที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในระยะยาว ทั้งนี้ จากการที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายระยาวของเฟดอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการจึงตั้งเป้าหมายที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 2% ในบางช่วงเวลา เพื่อให้อัตราเฉลี่ยของเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 2% และตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวอยู่ที่ระดับ 2% โดยคณะกรรมการจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
อ้างอิง: ryt9.com
Fed เร่งศึกษาออก CBDC ของตนเอง ชี้อยู่ในความสนใจมากว่า 1 ปีแล้ว

นายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed กล่าวว่า Federal Reserve กำลังเร่งดำเนินการศึกษาว่าจะใช้สกุลเงินดิจิทัลของตนเองหรือไม่ โดยจะออกเอกสารเกี่ยวกับประเด็นนี้ในไม่ช้า ซึ่งยังไม่มีการตัดสินใจในเรื่องนี้ โดย Fed ไม่รู้สึกกดดันให้ทำการอย่างรวดเร็วแม้ประเทศอื่นๆ ได้เดินหน้าโครงการของตนเองไปแล้ว
นอกจากนี้ยังล่วว่ากำลังดำเนินการในเชิงรุกเพื่อประเมินว่าจะออก CBDC หรือไม่ และหากเป็นเช่นนั้นจะเป็นในรูปแบบใด ซึ่งการสร้างดอลลาร์ดิจิทัลนั้นอยู่ในมุมมองของ Fed มาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว และได้ประกาศในเดือนพฤษภาคมว่าจะเริ่มการตรวจสอบอย่างละเอียดในประเด็นนี้ด้วย
ด้าน Boston Fed ได้ให้ความสำคัญกับโครงการนี้ โดยร่วมมือกับ MIT ในการริเริ่มว่าธนาคารกลางควรสร้างเหรียญดิจิทัลของตนเอง โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ระบบการชำระเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่ ลาเอล เบรนาร์ด ผู้ว่าการเฟดเป็นผู้สนับสนุนความพยายามอย่างแข็งขัน แม้ว่าเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ อีกหลายคน รวมถึงรองประธานฝ่ายกำกับดูแล Randal Quarles ก็ยังตั้งข้อสงสัย โดยผู้สนับสนุนอย่าง Brainard กล่าวว่า ประโยชน์ของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางนั้น รวมถึงการได้รับการชำระเงินอย่างรวดเร็วให้กับผู้คนในยามวิกฤติและยังให้บริการแก่ผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร
พาวเวลกล่าวว่าเราคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่ธนาคารกลางจะต้องรักษาสกุลเงินและระบบการชำระเงินที่มีเสถียรภาพเพื่อประโยชน์สาธารณะ นั่นเป็นหนึ่งในงานของเรา และสังเกตเห็นนวัตกรรมการเปลี่ยนแปลง”ในด้านการชำระเงินดิจิทัล และเฟดยังคงดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งรวมถึงระบบ FedNow ของตัวเองที่คาดว่าจะออนไลน์ในปี 2566 การทดสอบ CBDC คือ มีประโยชน์ที่ชัดเจนและจับต้องได้ ซึ่งมีค่ามากกว่าต้นทุนและความเสี่ยงใดๆ อย่างไรก็ตามมีข้อกังวลบางประการว่าหากเฟดไม่ดำเนินการอย่างจริงจังมากขึ้น ตำแหน่งของเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองทั่วโลกอาจถูกท้าทาย
พาวเวลตั้งข้อสังเกตตำแหน่งของเงินดอลลาร์ในโลกว่า Fed อยู่ในตำแหน่งที่ดีในการตัดสินใจว่าจะปรับใช้สกุลเงินดิจิทัลของตนเองหรือไม่ เขาแสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวกฎระเบียบและกล่าวว่าเฟดน่าจะต้องได้รับอนุญาตจากรัฐสภาหากตัดสินใจที่จะดำเนินการต่อ
อ้างอิง: moneyandbanking.co.th
ทองคำปรับตัวลง หลังเฟดเผยเป็นนัยว่าอัตราดอกเบี้ยจะมาเร็วกว่าที่คิด

ราคาทองคำร่วงลงในเช้าวันพฤหัสบดีในเอเชีย หลังธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ส่งสัญญาณว่าอาจเริ่มลดสินทรัพย์ลงภายในปี 2564 และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจมาเร็วกว่าที่คาดไว้เช่นกัน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ลดลง 0.80% สู่ 1764.65 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 23:48 น. ET (3:48 น. GMT) ค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งปกติจะเคลื่อนไหวผกผันกับทองคำ ขยับตัวลงหลังจากแข็งค่าขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน
Fed ได้ส่งมอบการตัดสินใจด้านนโยบายล่าสุด ในวันพุธและกล่าวว่าการลดลงของสินทรัพย์อาจเริ่มทันทีในเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ยังจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
ธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางนอร์เวย์ จะมอบการตัดสินใจด้านนโยบายตามลำดับในภายหลัง ส่วนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธนาคารกลางญี่ปุ่น คงอัตราดอกเบี้ยที่ -0.10% หลังส่งมอบการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายในวันพุธ
ที่อื่นๆ ในภูมิภาค China Evergrande Group (HK:3333) ได้บรรเทาความกังวลชั่วคราวจากวิกฤตหนี้ที่เกิดขึ้น หลังบริษัทพัฒนาอสังหาบรรลุข้อตกลงในการชำระดอกเบี้ยพันธบัตรในประเทศ ในขณะที่ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนได้อัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบธนาคารด้วย นักลงทุนต่างกังวลใจว่าบริษัทจะสามารถชำระดอกเบี้ยพันธบัตรต่างประเทศจำนวน 83.5 ล้านดอลลาร์ซึ่งจะครบกำหนดในวันพฤหัสบดีนี้ได้หรือไม่ รวมถึงหนี้สินมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์อีกด้วย
ในขณะเดียวกัน รัสเซียผลิตทองคำได้ 173.99 ตันระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม ลดลงจาก 176.30 ตันที่ผลิตในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2020 ด้านโลหะมีค่าอื่นๆ เงินลดลง 0.5% และแพลทินัมลดลง 0.4% แพลเลเดียมลง 0.1% ที่ 2,020.96 ดอลลาร์ แต่ราคาเพิ่มขึ้น 6.2% ในวันพุธ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในหนึ่งวันที่สูงที่สุดนับตั้งแต่มีนาคม 2563
อ้างอิง: th.investing.com
อัตราแลกเปลี่ยนกลาง 33.442 บาท/ดอลลาร์ (อ่อนค่า 0.014 บาท/ดอลลาร์)

อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับอัตราอ้างอิงของสิ้นวันทำการวันอังคาร (21 ก.ย. 64) อยู่ที่ระดับ 33.428 บาท/ดอลลาร์ (อ่อนค่า 0.014 บาท/ดอลลาร์)
อัตราแลกเปลี่ยนเงินยูโร เทียบกับ ณ สิ้นวันทำการวันอังคาร (21 ก.ย. 64) อยู่ที่ระดับ 39.5787 บาท/ยูโร (แข็งค่า 0.0019 บาท/ยูโร)
อ้างอิง: bangkokbiznews.com