จับตาทิศทางตลาดหุ้นยุโรปในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นยุโรปจะเปิดในแดนบวก ขานรับข่าวนายเอ็มมานูเอล มาครง ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (24 เม.ย.)

ผลการนับคะแนนเบื้องต้นระบุว่า นายมาครงได้คะแนนโหวต 58.6% แซงหน้านางมารีน เลอเปน คู่แข่งจากพรรคเนชันแนล ฟรอนต์ (FN) ซึ่งได้คะแนนโหวต 41.4%

— ตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มเปิดในแดนลบวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ล่าสุดเช้านี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 244 จุด หรือ -0.72% แตะที่ 33,484 จุด

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และระบุว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค.

ทั้งนี้ ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค. โดยหากเป็นไปตามการคาดการณ์ ก็จะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543

— ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงหลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์ช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่จีนล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้เป็นเวลานาน และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

ณ เวลา 09.15 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 3.01 ดอลลาร์ หรือ -2.95% แตะที่ระดับ 99.06 ดอลลาร์/บาร์เรล

— นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐควรพิจารณาดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดภาษีนำเข้าสินค้าจีน เมื่อพิจารณาถึงผลที่พึงประสงค์ เพราะการลดภาษีดังกล่าวอาจส่งผลให้เงินเฟ้อของสหรัฐลดลงหลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีในปีนี้

การแสดงความเห็นของนางเยลเลนมีขึ้น หลังจากนายดาลีป ซิงห์ ที่ปรึกษาระดับสูงของทำเนียบขาวเสนอว่า สหรัฐอาจลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนที่ไม่ใช่สินค้าเชิงยุทธศาสตร์ เช่น จักรยานหรือเครื่องแต่งกาย เพื่อช่วยต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ

— ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเตือนว่า การที่รัสเซียรุกรานยูเครนนั้นเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น และรัสเซียได้วางแผนที่จะยึดครองประเทศอื่น ๆ ด้วย หลังจากนายพลของรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียต้องการเข้าควบคุมดินแดนในภาคใต้ของยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ

ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า “ทุกประเทศที่เชื่อในชัยชนะของชีวิตเหนือความตายเหมือนกับเรา จะต้องต่อสู้ร่วมกับเรา พวกเขาต้องช่วยเรา เพราะเราเป็นประเทศแรกในแถว และประเทศใดจะเป็นรายต่อไป”

— นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ แอปเปิล, ไมโครซอฟท์, แอมะซอน, อัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล และเมตา ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก

อ้างอิง: อินโฟเควสท์