ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วง หลัง Meta ฉุดตลาด

ตลาดหุ้นฟิวเจอร์สของสหรัฐฯ ซื้อขายสูงขึ้นในช่วงต้นของวันอังคาร หลังจากดัชนีหลักผันผวนในช่วงต้น เนื่องจากนักลงทุนที่ระมัดระวังยังคงถอยห่างจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ก่อนการมาถึงของ ข้อมูลเงินเฟ้อ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้

ในช่วงเซสชั่นปกติของวันจันทร์

• ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1.39 จุดเป็น 35,091.13 จุด
• S&P ลดลง 16.66 จุดหรือ 0.37% ที่ 4483.88
• ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 82.34 จุดหรือ 0.58 % ถึง 14,015.67
• ตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ทรงตัวที่ระดับสูงสุดในรอบ 25 เดือนที่ 1.918%

ในบรรดาหุ้นต่าง ๆ บริษัทแม่ของ Facebook Meta Platforms Inc (NASDAQ:FB) ร่วงลง 5.14% หลัง ประกาศผลประกอบการ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Block Inc (NYSE:SQ) ลดลง 5.57%, Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) ลดลง 1.63%, Apple Inc (NASDAQ:AAPL) ลดลง 0.42%, Netflix Inc (NASDAQ:NFLX ) ลดลง 1.97% และ Alphabet Inc (NASDAQ:GOOGL) ลดลง 2.86%

ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหดตัว นำโดย Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) ซึ่งลดลง 1.73%, Rivian Automotive Inc (NASDAQ:RIVN) ร่วงลง 4.12% และ Lucid Group Inc (NASDAQ:LCID) ) ลดลง 2.11%

ในขณะเดียวกัน Tyson Foods Inc (NYSE:TSN) เพิ่มขึ้นมากกว่า 12% หลังจากเอาชนะความคาดหวัง รายได้ ในขณะที่ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ Zimmer Biomet Holdings Inc (NYSE: ZBH) ลดลง 9% หลังจากรายงานผลประกอบการ ส่วน Peloton Interactive Inc (NASDAQ:PTON) เพิ่มขึ้นเกือบ 21% หลังจากรายงานว่า Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) และ Nike Inc (NYSE:NKE ) สนใจบริษัทผลิตอุปกรณ์ออกกำลังกาย

ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะติดตามข้อมูล ดัชนีราคาผู้บริโภค อย่างใกล้ชิดสำหรับเดือนมกราคม นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นถึงระดับ 7.2% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 1982

อ้างอิง: th.investing.com/

หุ้นเอเชียผันผวนตามหุ้นสหรัฐฯ ความกังวลเฟดกระชับนโยบายยังเรื้อรังต่อเนื่อง

หุ้นเอเชียผันผวน ในเช้าวันอังคาร ควบคู่ไปกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยนักลงทุนได้ชั่งน้ำหนักผลกระทบของนโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากโควิด-19

• นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.52% เมื่อเวลา 21:57 น. ET (2:57 น. GMT) โดยข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อต้นวันแสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายของครัวเรือนหดตัว 0.2% เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะที่เพิ่มขึ้น 0.1% เดือนต่อเดือน ในเดือนธันวาคม 2021 บัญชีเดินสะพัดที่ปรับบัญชีแล้ว (Adjusted Current Account) อยู่ที่ 0.79 ล้านล้านเยน ในขณะที่ บัญชีเดินสะพัด (Current Account) อยู่ที่ –0.371 ล้านล้านเยน
• KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.94%
• ASX 200 ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.95% โดยในวันอังคารดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของแบงค์ชาติออสเตรเลีย (NAB) อยู่ที่ 3
• ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 1.30%
• ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนเพิ่มขึ้น 0.58%
• ดัชนีองค์ประกอบ SZSE ลดลง 1.58%
• ดัชนี Nasdaq Golden Dragon China ร่วงลงด้วยเช่นกัน

พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นยังได้รับความสนใจ โดยธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นเตรียมที่จะเข้าไปแทรกแซงการซื้อเนื่องจากอัตราผลตอบแทนเคลื่อนไปสู่จุดสูงสุดที่ธนาคารกลางสามารถรับความเสี่ยงได้แล้ว

ในสหรัฐอเมริกา พันธบัตรที่มีอายุยาวทรงตัว หลังเกิดการเทขายพันธบัตรทั่วโลกจากความน่าจะเป็นที่เพิ่มขึ้นของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค จะครบกำหนดในวันพฤหัสบดีเช่นกัน “ตลาดจะปรับตัวเข้ากับนโยบายการเงินแบบเข้มงวดได้ในที่สุด” หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ AXA Investment Managers กล่าวในหมายเหตุ “การคาดการณ์การเติบโตและรายได้ที่จะประกาศในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเป็นกุญแจสำคัญ”

จนถึงปัจจุบัน หุ้นทั่วโลกลดลงประมาณ 5% ในปี 2022 ขณะที่หนี้สาธารณะจากยุโรปไปยังสหรัฐฯ และออสเตรเลียก็ลดลงเช่นกัน นักลงทุนกำลังต่อสู้กับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในวงกว้างของนโยบายธนาคารกลางสหรัฐ “โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดสินเชื่อ” Kristen Bitterly หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของ Citi Global Wealth ในอเมริกาเหนือกล่าวกับ Bloomberg “นั่นคือสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังมองหาในตอนนี้ในแง่ของสิ่งที่สามารถแทรกแซงความผันผวนในตลาดที่กว้างขึ้นได้” เธอกล่าว นายลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดแห่งคลีฟแลนด์จะขึ้นพูดในวันพุธนี้ ขณะที่นายแอนดรูว์ ไบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษจะพูดในอีกหนึ่งวันถัดมา

อ้างอิง: th.investing.com/

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดทรงตัว หลังประธาน ECB ชี้อาจยังไม่ต้องปรับนโยบายการเงิน

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดแทบไม่ขยับในวันนี้ หลังนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) แสดงความเห็นเมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) ว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้ออาจลดลงก่อนจะกลายเป็นการคาดการณ์ในตลาด ซึ่งจะลดความจำเป็นในการปรับนโยบายการเงิน ขณะเดียวกัน รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปก็ได้ส่งแรงหนุนให้บรรยากาศซื้อขายยังเป็นไปในแง่บวก

• ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 465.55 จุด เพิ่มขึ้น 0.27 จุด หรือ +0.06%
• ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดตลาดวันนี้ที่ 15,221.70 จุด เพิ่มขึ้น 15.06 จุด หรือ +0.10% และดัชนี CAC-40
• ตลาดหุ้นฝรั่งเศส เปิดตลาดวันนี้ที่ 7,008.20 จุด ลดลง 1.05 จุด หรือ -0.01%

อ้างอิง: ryt9.com/

ทองคำปรับตัวลง แต่ช่วงลบยังจำกัด ขอบคุณเงินเฟ้อ

ราคาทองคำร่วงลงในเช้าวันอังคารที่เอเชีย แม้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องยกระดับความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำก็ตาม นักลงทุนยังรอข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์หน้า

• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ลดลง 0.04% เป็น 1,821.15 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 12:07 น. ET (5:07 น. GMT) ใกล้ระดับสูงสุดที่ 1,823.21 ในวันจันทร์ ดอลลาร์ ซึ่งปกติจะเคลื่อนไหวผกผันกับทองคำ ขยับขึ้นในวันอังคาร
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2019 ซึ่งได้รับผลกระทบในช่วงก่อนหน้า
• เงิน เพิ่มขึ้น 0.1%
• แพลตตินั่ม อยู่ที่ 1,020.06 ดอลลาร์
• แพลเลเดียม ขยับขึ้น 0.2%

ข้อมูลของสหรัฐฯ รวมถึง ดัชนีราคาผู้บริโภค จะครบกำหนดประกาศในวันพฤหัสบดี ยังต้องรอดูกันว่าข้อมูลจะส่งผลกระทบต่อไทม์ไลน์ของธนาคารกลางสหรัฐในการกระชับนโยบายการเงินอย่างไร ขณะนี้ตลาดคาดว่ามีโอกาสหนึ่งในสามที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2022 คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป เปิดเผยว่า ยูโรโซนไม่จำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินขนาดใหญ่ในการจัดการกับเงินเฟ้อ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มอ่อนตัวลงและอาจทรงตัวที่ประมาณ 2% เธอเสริมว่าราคาพลังงานที่สูงซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเงินเฟ้อ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะกระทบกับกำลังซื้อของครัวเรือน

ขณะเดียวกัน นายลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดแห่งคลีฟแลนด์ มีกำหนดขึ้นพูดในวันพุธ โดยนายแอนดรูว์ ไบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) จะขึ้นพูดในวันต่อมา ความตึงเครียดทางการเมืองในยุโรปตะวันออกที่มีต่อยูเครนยังคงดำเนินต่อไป แต่ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเอ็มมานูเอล มาครง เตือนว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ปูตินบอกเป็นนัยว่ามีความคืบหน้าในการเจรจา

อ้างอิง: th.investing.com/

ราคาน้ำมันผ่อนคลายลง หลังสหรัฐฯ-อิหร่าน เจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์เพิ่ม

ราคาน้ำมันร่วงลงในเช้าวันอังคาร ในเอเชีย ราคาน้ำมันเริ่มผ่อนคลายก่อนเริ่มการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่านอีกครั้ง ซึ่งสามารถรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์และยกเลิกการคว่ำบาตรการขายน้ำมันของอิหร่าน

• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ลดลง 0.35% สู่ 92.37 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 23:37 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (4:37 น. GMT)
• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.24% สู่ 91.10 ดอลลาร์

ทั้งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของเบรนท์และน้ำมันดิบ WTI แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ในช่วงก่อนหน้าโดยได้แรงหนุนจากความต้องการเชื้อเพลิงทั่วโลกที่แข็งแกร่ง ความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องในยุโรปตะวันออก และอุปทานที่อาจหยุดชะงักเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นของสหรัฐฯ

การเจรจาเพื่อรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 ในกรุงเวียนนามีกำหนดเริ่มดำเนินการอีกครั้งหลังจากหยุดไป 10 วัน แม้ว่าขณะนี้สหรัฐฯ ได้ฟื้นฟูมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนแล้ว แต่อิหร่านก็เรียกร้องให้ยกเลิกการคว่ำบาตรโดยสมบูรณ์ และรับประกันว่าสหรัฐฯ จะไม่ดำเนินการลงโทษใด ๆ เพิ่มเติม

นักวิเคราะห์จาก ANZ Research ระบุในหมายเหตุว่า “สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมันดิบลดน้อยลง เนื่องจากน้ำมันอิหร่านเริ่มเข้าสู่ตลาด” นักวิเคราะห์จาก ANZ Research กล่าวในหมายเหตุ ซึ่งระบุด้วยว่าผู้เจรจาได้อ้างถึง “ความคืบหน้า” ในการบรรลุข้อตกลงที่จะ “ฟื้นฟูประเทศที่ถูกคว่ำบาตรในท้ายที่สุด”

“อย่างไรก็ตาม สัญญาณตลาดกระทิงยังอยู่สำหรับตลาดน้ำมัน” นักวิเคราะห์กล่าวโดยชี้ไปที่ซาอุดิอาระเบียที่ขึ้นราคาน้ำมันและการปิดโรงกลั่นของสหรัฐโดยไม่คาดคิด อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ผ่อนคลายลงอาจเป็นเพียงชั่วคราว เอ็ดเวิร์ด โมย่า นักวิเคราะห์ของ OANDA มองว่า ขณะที่การมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่านทำให้เกิดการทำกำไร แต่ราคาที่อ่อนตัวลงน่าจะอยู่ได้ไม่นาน “ด้วยความต้องการน้ำมันดิบที่คาดว่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงที่เหลือของปี ตลาดน้ำมันจึงถูกขับเคลื่อนโดยความเสี่ยงทั้งด้านอุปทานและด้านภูมิรัฐศาสตร์” เขากล่าวเสริม

Saudi Aramco (SE:2222) กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่าได้ขึ้นราคาน้ำมันดิบทุกเกรดที่ขายไปยังเอเชียในเดือนมีนาคม 2022 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ การตัดสินใจเป็นไปตามความคาดหวังของตลาด ซึ่งสะท้อนถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในภูมิภาคนี้ ตลอดจนอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งขึ้นสำหรับน้ำมันแก๊สโซลินและน้ำมันเครื่องบิน

ในขณะเดียวกัน ในสหรัฐอเมริกา การผลิตที่โรงกลั่นของเท็กซัสได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าดับทั่วเมืองเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นได้พัดปกคลุมอ่าวกัลฟ์โคสต์ อย่างไรก็ตาม โรงกลั่นบางแห่งกำลังอยู่ในระหว่างการฟื้นฟูหรือกลับมาดำเนินการได้ตามปกติแล้ว

ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอ ข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐอเมริกา (American Petroleum Institute) ซึ่งจะประกาศในช่วงท้ายของวัน

อ้างอิง: th.investing.com/