
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.75 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็น วันศุกร์ที่ระดับ 32.86 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทแข็งค่าเทียบท้ายตลาด โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล(PCE) เดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ ออกมาชะลอลงตามคาด ส่งผลให้ดอลลาร์ย่อลง ด้านสกุลเงินในภูมิภาคส่วนใหญ่แข็งค่า
อ้างอิง อินโฟเควสท์
ราคาน้ำมันขยับเล็กน้อย จากความตึงเครียดในอิหร่าน และการเปิดประเทศจีน

Investing.com — ราคาน้ำมันทรงตัวในกรอบแคบในวันจันทร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการโจมตีโรงงานในอิหร่านด้วยโดรนและอุปทานส่วนเกินที่นำโดยรัสเซีย แม้ว่าการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการฟื้นตัวของอุปสงค์ในจีนจะช่วยเพิ่มกำไรได้บ้าง
การโจมตีด้วยโดรนในฐานป้องกันของอิหร่านในช่วงสุดสัปดาห์ โดยสหรัฐฯ ชี้ว่าอิสราเอลอาจอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีในครั้งนี้และอาจเพิ่มความตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบทั่วโลก
อ้างอิง Investing.com
หุ้นจีนพุ่งหลังกลับมาจากวันหยุดยาว.

Investing.com — ตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในวันจันทร์ เนื่องจากตลาดกลับมาซื้อขายอีกครั้งหลังวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ขณะที่ความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ช่วยหนุนความเชื่อมั่นเช่นกัน
ดัชนี CSI 300 เพิ่มขึ้น 1.3% ขณะที่ดัชนี เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต เพิ่มขึ้น 0.6% โดยซื้อขายในเชิงบวก หุ้นกลุ่มรถยนต์และหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเป็นหุ้นที่มีการซื้อขายดีที่สุดในช่วงแรก ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลง
อ้างอิง Investing.com
ธนาคารโลกคาดเศรษฐกิจเมียนมาโต 3% แต่ยังน้อยกว่าปี 2563

ธนาคารโลกระบุในรายงานที่เผยแพร่วันนี้ (30 ม.ค.) ว่า เศรษฐกิจของเมียนมาน่าจะเติบโต 3% ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำกว่าระดับที่เคยทำได้ก่อนรัฐบาลทหารมายึดครองเมื่อ 2 ปีก่อน
ธนาคารโลกเปิดเผยในรายงานหัวข้อ “Myanmar Economic Monitor: Navigating Uncertainty” ว่า เมียนมามีความผันผวนอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนยังคงส่งผลกระทบต่อแนวโน้มในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ่อนค่าของอัตราแลกเปลี่ยน ประกอบกับข้อจำกัดด้านโลจิสติกส์ ซึ่งส่งผลให้ราคาสูงขึ้น จนทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจนอยู่ที่เกือบ 20% ตลอดทั้งปีจนถึงเดือนก.ค.
อ้างอิง อินโฟเควสท์
คาดแบงก์ชาติอินเดียขึ้นดบ.เพียง 0.25% สัปดาห์หน้า ก่อนตรึงดบ.ยาวถึงสิ้นปี

นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพียง 0.25% แตะที่ 6.50% ในการประชุมวันที่ 8 ก.พ.นี้ และจากนั้นจะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับดังกล่าวจนถึงสิ้นปี 2566
การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของอินเดียจะชะลอตัวลงเหลือ 6.0% ในปีงบประมาณ 2566 – 2567 จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 6.7%
อ้างอิง อินโฟเควสท์