ดอลลาร์อ่อนค่า จับตาโอมิครอน,”โกลด์แมน แซคส์” หั่นคาดการณ์ศก.สหรัฐ

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนหันกลับมาจับตาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน หลังจากที่ผ่านพ้นการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์ที่แล้ว

ณ เวลา 00.03 น.ตามเวลาไทย

• ดอลลาร์อ่อนค่า 0.18% สู่ระดับ 113.46 เยน
• ยูโรปรับตัวขึ้น 0.34% สู่ระดับ 128.18 เยน และดีดตัวขึ้น 0.51% สู่ 1.130 ดอลลาร์
• ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.19% สู่ระดับ 96.38

ขณะนี้ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้แพร่ระบาดใน 43 รัฐของสหรัฐ และ 90 ประเทศทั่วโลก นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนกำลังแพร่ระบาดในอัตราที่รวดเร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการที่โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐ ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปี 2565 หลังจากที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.75 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนอาจถูกคว่ำในวุฒิสภาสหรัฐ

นายโจ แมนชิน ซึ่งเป็นแกนนำวุฒิสมาชิกของพรรคเดโมแครต ประกาศไม่สนับสนุนร่างกฎหมาย Build Back Better วงเงิน 1.75 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.ไบเดน โดยอ้างว่าจะเป็นการเพิ่มภาระหนี้ให้กับสหรัฐ

ท่าทีของนายแมนชินจะส่งผลให้ร่างกฎหมายดังกล่าวขาดเสียงสนับสนุนที่เพียงพอในวุฒิสภา แม้ว่าผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะให้เงินช่วยเหลือในการดูแลเด็กอ่อน, การประกันสุขภาพ และการลดภาษีแก่พลังงานสะอาดเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า หากร่างกฎหมาย Build Back Better ถูกขัดขวางในวุฒิสภาก็จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวในปี 2565 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากร่างกฎหมายฉบับนี้ได้รวมถึงงบประมาณของรัฐบาลจำนวนมากในการใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคม และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรับมือปัญหาโลกร้อน ส่งผลให้โกลด์แมน แซคส์ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสแรกของปี 2565 สู่ระดับ 2% จากเดิมที่ระดับ 3% และปรับลดคาดการณ์สำหรับไตรมาส 2 และ 3 สู่ระดับ 3% และ 2.75% ตามลำดับ จากเดิมที่ระดับ 3.5% และ 3%

อ้างอิง: www.ryt9.com

ความกลัวโอมิครอนแผ่ขยาย กดดันราคาทองคำ

ราคาทองคำร่วงลงในเช้าวันอังคารในเอเชีย หลังนักลงทุนประเมินผลกระทบจากการใช้จ่ายภายในประเทศที่ 1.75 ล้านล้านเหรียญของสหรัฐ และจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่พุ่งสูงขึ้น

• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ขยับลง 0.12% เป็น 1,792.35 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 23:03 น. ET (4:03 น. GMT) ค่าเงิน ดอลลาร์ ซึ่งปกติจะเคลื่อนไหวผกผันกับทองคำ ปรับตัวลดลงในวันอังคาร

ผลกระทบจากความเห็นของ โจ แมนชินวุฒิสมาชิกสหรัฐ ในวันอาทิตย์ที่กล่าวว่าเขาจะไม่สนับสนุนแพ็คเกจ Build Back Better มูลค่า 1.75 ล้านล้านดอลลาร์ของไบเดน ยังคงส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของนักลงทุนในวันอังคาร นอกจากนี้นักลงทุนยังมีความกังวลเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในยุโรปและสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น และบางประเทศในยุโรปเตรียมกำหนดล็อกดาวน์ที่เข้มงวดขึ้นเพื่อชะลอการแพร่กระจายของเชื้อโอมิครอน นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เขาจะเข้มงวดกับข้อจำกัดเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโอมิครอนในสหราชอาณาจักร ในขณะที่เนเธอร์แลนด์ได้เข้าสู่การล็อกดาวน์แล้ว

ด้านสหรัฐอเมริกา มีการชักชวนให้ผู้คนฉีดวัคซีนกระตุ้นและสวมหน้ากาก โดยการประเมินของรัฐบาลกลางแสดงให้เห็นว่าผู้ติดเชื้อโอมิครอนคิดเป็น 73% ของผู้ป่วยทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา

ในขณะเดียวกัน บริษัท Moderna (NASDAQ:MRNA) Inc. กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าวัคซีนกระตุ้นโควิด-19 สามารถป้องกันสายพันธุ์ดังกล่าวได้ในการทดสอบในห้องปฏิบัติการ บ่งชี้ว่าวัคซีนปัจจุบันเป็น “ด่านแรกในการป้องกันโอมิครอน ”

ในเอเชียแปซิฟิก ธนาคารกลางออสเตรเลีย ได้เผยแพร่รายงานการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวัน ธนาคารกลางกล่าวในรายงานการประชุมว่าการเริ่มลดระดับสินทรัพย์ในการประชุมครั้งแรกของปี 2565 และจะสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคม ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ที่มีอยู่ ด้านโลหะมีค่าอื่น ๆ เงินและแพลเลเดียมลดลง 0.1% ในขณะที่แพลตตินั่มขยับลง 0.2%

อ้างอิง: th.investing.com

หุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น แต่โอมิครอนยังคุกคามการเติบโตโดยรวม

หุ้นเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นในเช้าวันอังคาร โดยฟื้นตัวจากภาวะถดถอยใน
เซสชั่นก่อนหน้า แม้ว่าการผลักดันของจีนเพื่อช่วยเหลือนักพัฒนาภาคอสังหาจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่ผู้ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนทั่วโลกจำกัดความเคลื่อนไหวในตลาดเล็กน้อย

• นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 2.07% เมื่อเวลา 22:21 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (3:21 น. GMT) และ KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.44%
• ASX 200 ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.62% หลัง ธนาคารกลางออสเตรเลีย เผยแพร่รายงานการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวัน โดยกล่าวว่าจะเริ่มลดซื้อสินทรัพย์ลงในการประชุมครั้งแรกของปี 2565 และสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคม ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์
• ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 0.48%
• ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนเพิ่มขึ้น 0.43% ในขณะที่ ดัชนีองค์ประกอบ SZSE ลดลง 0.03% ทางการได้เรียกร้องให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั้งภาครัฐและเอกชนขนาดใหญ่ซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์จากบริษัทที่มีปัญหา เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจจากวิกฤติหนี้สิน

อย่างไรก็ตามตลาดเอเชียค่อนข้างสดใสในช่วงแรก ๆ เนื่องจากตลาดสหรัฐฯ รีบาวน์ในบางส่วน อย่างไรก็ตาม ปริมาณยังน้อยเมื่อใกล้ถึงวันหยุด หุ้นสหรัฐร่วงลงกว่า 1% หลังแพคเกจใช้จ่ายเพื่อสังคมของประธานาธิบดีโจ ไบเดนถูกคว่ำ หลังวุฒิสมาชิก โจ แมนชิน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าจะไม่สนับสนุนแพ็คเกจ Build Back Better ของไบเดนซึ่งเป็นเป็นเงินอัดฉีดการลงทุนในประเทศมูลค่า 1.75 ล้านล้านดอลลาร์

นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs Group Inc. ปรับลดประมาณการการเติบโตของสหรัฐหลังจากความคิดเห็นของ แมนชิน ขณะที่ S&P 500 ลดลงสามวันหนักสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2021

“มีไดนามิกสองแบบเกิดขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสภาพคล่องจะลดลง ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนยังมีความกังวลเรื่องโอไมครอน” เจย์ แฮทฟิลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการเงินทุน กล่าวกับบลูมเบิร์ก

นักลงทุนรายอื่นยังเน้นย้ำถึงภัยคุกคามจากโอมิครอน “โควิด-19 ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโลก หลักฐานเบื้องต้นบ่งชี้ว่าโอมิครอนมีความสามารถแพร่เชื้อได้สูง แต่ส่งผลต่อการเจ็บป่วยที่รุนแรงน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ก่อนหน้า” นักวิเคราะห์ของ CBA กล่าวในหมายเหตุ

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าเขาพร้อมที่จะกระชับมาตรการ หากจำเป็น และสายพันธุ์ดังกล่าวกำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในยุโรป ในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันโอมิครอนคิดเป็น 73% ของผู้ป่วยทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาตามลำดับ ตามการประมาณการของรัฐบาลกลาง

อ้างอิง: th.investing.com