ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันนี้ (15 พ.ย.) ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า PBOC อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR) ในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ คณะกรรมการ PBOC มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนไว้ที่ระดับ 2.75%
อ้างอิง อินโฟเควสท์
เงินบาทเปิด 35.69 แข็งค่าตามภูมิภาค ให้กรอบวันนี้ 35.60-35.85 ตลาดรอตัวเลขศก.สหรัฐ
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 35.69 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.89 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทแข็งค่า เคลื่อนไหวตามสกุลเงินภูมิภาค และค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นในช่วงนี้ ขณะที่เมื่อคืนดอลลาร์ปรับตัวไร้ทิศทางมีการฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน และยูโร แต่เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ มีทั้งแข็งค่าและอ่อนค่า
อ้างอิง อินโฟเควสท์
ราคาน้ำมันดิบ (15 พ.ย. 65) ปรับลด จากความกังวลตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดจีนสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงจากความกังวลหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในจีนปรับสูงขึ้น
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบลดลงราว 3% หลังสำนักงานด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อในจีนเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 16,000 คนต่อวัน ในวันที่ 13 พ.ย. ในกรุงปักกิ่งและเขตอุตสาหกรรมใกล้เคียง ทำให้ความกังวลของนักลงทุนเพิ่มขึ้น ต่อมาตรการของรัฐบาลจีนจะตัดสินใจใช้มาตรการล็อกดาวน์เพิ่มอีกครั้ง หลังมีการผ่อนปรนการควบคุมลงก่อนหน้านี้
อ้างอิง ประชาชาติธุรกิจ
โอเปกหั่นคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกลงอีก หลังปัญหาด้านเศรษฐกิจเพิ่ม
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประกาศปรับลดคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2565 เป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่เดือนเม.ย. รวมถึงปรับลดตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าลงด้วย อันเนื่องมาจากปัญหาด้านเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
โอเปกระบุในรายงานประจำเดือนว่า อุปสงค์น้ำมันในปี 2565 จะขยายตัวขึ้นแตะ 2.55 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 2.6% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ 100,000 บาร์เรลต่อวัน โดยให้เหตุผลว่า “ขณะนี้โลกได้เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความไม่มั่นคงและอุปสรรคทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2565 โดยปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบได้แก่ อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น, นโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลาง, หนี้สาธารณะที่ระดับสูงในหลายภูมิภาค, ตลาดแรงงานที่ซบเซา และข้อจำกัดด้านห่วงโซ่อุปทานที่ยังคงมีอยู่”
อ้างอิง อินโฟเควสท์
SGC เคาะราคาไอพีโอ 3.90 บาท เสนอขาย 29-30 พ.ย. และ 1-2 ธ.ค.นี้
บมจ. เอสจี แคปปิตอล (SGC) เคาะราคาขายไอพีโอ (IPO) หุ้นละ 3.90 บาท ระดมทุนปั้นพอร์ตสินเชื่อโตกระโดด เปิดจองซื้อสำหรับประชาชนทั่วไป 29-30 พ.ย. และ 1-2 ธ.ค.นี้
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 นางสาวบุษบา กุลศิริธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC เปิดเผยว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) นับเป็นอีกก้าวความสำเร็จและความภาคภูมิใจ ของ SGC ในฐานะผู้ให้บริการด้านสินเชื่อและผลิตภัณฑ์ทางการเงินชั้นนำของประเทศไทย ที่ต่อยอดมาจาก บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) พิสูจน์ด้วยผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเติบโตอย่างโดดเด่น
อ้างอิง ประชาชาติธุรกิจ
