กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นร่วงลงสู่ระดับ 1.24 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. จากระดับ 1.29 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี เพื่อยับยั้งการอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วของเงินเยน

ข้อมูลของกระทรวงระบุว่า ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั้งหมดนั้น มีเงินฝากจำนวน 1.3611 แสนล้านดอลลาร์ โดยเงินฝากในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นนั้น สามารถเบิกถอนไปใช้ได้ในกรณีที่ต้องเข้าแทรกแซงตลาด นอกจากนี้ยังมีหลักทรัพย์มูลค่า 9.8527 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากระดับ 1.04 ล้านล้านดอลลาร์

นายชูนิชิ ซูซูกิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นระบุว่า การเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราโดยการเข้าซื้อหลักทรัพย์สกุลเงินเยน และเทขายหลักทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 2.84 ล้านล้านดอลลาร์นั้น ได้ส่งผลกระทบตลาดเงินเยนในระดับหนึ่ง และเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังบรรดานักเก็งกำไรที่อยู่เบื้องหลังเงินเยนที่ทรุดตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

อ้างอิง อินโฟเควสท์

เกาหลีใต้เตรียมความพร้อมเครื่องมือสร้างสภาพคล่อง FX

กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ระบุในวันนี้ (7 ต.ค.) ว่า จะเตรียมเครื่องมือต่าง ๆ ให้พร้อม เพื่อให้ทางการสามารถจัดหาสภาพคล่องด้านปริวรรตเงินตราให้กับสถาบันการเงินได้อย่างทันท่วงที เมื่อถึงคราวจำเป็น

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ดังกล่าว หลังเสร็จสิ้นการประชุมที่มีประธานาธิบดียุน ซอกยอล เป็นประธาน โดยการประชุมครั้งนี้เป็นการตรวจสอบสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ ซึ่งรวมถึง ดุลบัญชีเงินสะพัดที่ย่ำแย่ลง

ในวันเดียวกัน ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในเดือนก.ย.ร่วงลงมากที่สุดในรอบราว 14 ปี เนื่องจากทางการเกาหลีใต้ได้เทขายสกุลเงินดอลลาร์ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศ เพื่อชะลอการอ่อนค่าของสกุลเงินวอน

อ้างอิง อินโฟเควสท์

เงินบาทเปิด 37.43 อ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค ตลาดรอตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯคืนนี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 37.43 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานที่ ปิดตลาดที่ระดับ 37.28 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าจากเย็นวาน และยังเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค โดยคืนนี้ตลาดรอดู ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ เนื่องจากเป็นตัวเลขสำคัญตัวหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้ในการประเมินทิศทาง การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบถัดไปเดือนพ.ย. ซึ่งรอบนี้ ตลาดประเมินว่ามีโอกาส 60-70% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75%

“เช้านี้เงินบาทยังเคลื่อนไหวอ่อนค่า เกาะกลุ่มไปกับสกุลเงินในภูมิภาค คาดว่าวันนี้บาทคงแกว่งตัวแคบๆ ตลาดรอดูตัวเลข จ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ที่จะออกมาคืนนี้ เพราะเป็นตัวเลขสำคัญที่จะใช้ประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟดด้วย” นักบริหารเงินระบุ

อ้างอิง อินโฟเควสท์

แบงก์รัฐซับน้ำตาลูกหนี้ “น้ำท่วม” จัดให้ทั้งพักหนี้-ลดดอก-ลดงวด-เงินกู้ฉุกเฉิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมหลายจังหวัดสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน และชีวิตจำนวนมาก ล่าสุด สถาบันการเงินของรัฐได้ระดมออกมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัย

โดยนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารเปิดให้ลูกค้าพักชำระหนี้เงินต้น โดยเลือกจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย 10-100% และกรณีดอกเบี้ยคงที่ลดชำระเงินงวด 50% ขณะเดียวกัน ยังให้กู้ฉุกเฉินรายละไม่เกิน 50,000 บาท ไม่คิดดอกเบี้ยปีแรก หลังจากนั้นคิด 0.85% ต่อเดือน ผ่อนนาน 3-5 ปี พร้อมกับไม่ต้องผ่อน 3 เดือนแรก รวมถึงยังมีสินเชื่อเคหะเพื่อซ่อมแซมต่อเติมที่อยู่อาศัยส่วนที่เสียหายได้ถึง 100% ของราคาประเมิน

ด้านนายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ได้มีแนวทางดูแลเกษตรกรได้รับความเสียหาย ด้วยการผ่อนผันชำระหนี้ออกไปไม่เกิน 12 เดือน โดยไม่คิดดอกเบี้ยปรับ และสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ร่วมโครงการประกันภัยข้าวนาปีจะได้รับชดเชยความเสียหาย นอกจากนี้ยังออกสินเชื่อช่วยฉุกเฉิน เช่น ค่าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นดอกเบี้ย 0% 6 เดือน วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท สินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนและทรัพย์สิน ไม่เกิน 500,000 บาท ดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ ลบ 2

อ้างอิง ไทยรัฐ

SET แกว่งตัว 1,580-1,600 จุด บอนด์ยีลด์สหรัฐพลิกดีดตัว กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย

บล.กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET INDEX) แกว่งตัว 1,580-1,600 จุด บอนด์ยีลด์สหรัฐดีดตัวหลังกรรมการเฟดสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย ระวังแรงขายลดความเสี่ยงก่อนประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ BDMH, GFPT

วันที่ 7 ตุลาคม 2565 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET INDEX) แกว่งตัว 1,580-1,600 จุด แม้ดัชนีจะได้แรงหนุนกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังโอเปกพลัสปรับลดกำลังการผลิตลง อย่างไรก็ตาม กรรมการของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หลายท่านยังคงสนับสนุนให้ FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อระดับสูง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US Bond yield) ดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ แรงขายลดความเสี่ยงก่อนประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือน ก.ย.ในวันนี้จะกดดันดัชนี

อ้างอิง ประชาชาติธุรกิจ