ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น หลังความกลัวโอมิครอนผ่อนคลาย

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ในการซื้อขายช่วงต้นของเอเชียแปซิฟิก ในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่ดัชนีหลักยังคงดีดตัวขึ้นในช่วงปกติ เนื่องจากนักลงทุนมองข้ามความกลัวเกี่ยวกับการแพร่กระจายที่เร่งตัวขึ้นของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน

• ดัชนี Dow Jones เพิ่มขึ้น 261.91 จุดหรือ 0.74% ที่ 35753.9
• สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Dow Jones 30 เพิ่ม 0.08%
• S&P 500 เพิ่มขึ้น 47.35 จุดหรือ 1.02% สู่ 4696.57 ปิด 1% ของระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
• สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.09%
• Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 180.81 จุด หรือ 1.18% ปิดที่ 15521.89
• สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Nasdaq 100 เพิ่มขึ้น 0.08%

ในบรรดาหุ้นที่น่าจับตา หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น

• Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) เพิ่มขึ้น 1.81%
• Apple Inc (NASDAQ:AAPL) เพิ่มขึ้น 1.53%
• NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) เพิ่มขึ้น 1.12%
• Alphabet Inc (NASDAQ:GOOGL) เพิ่มขึ้น 2.05%

ในขณะที่หุ้นโซเชียลมีเดีย

• Meta Platforms Inc (NASDAQ:FB) ลดลง 1.12%
• Twitter Inc (NYSE) :TWTR) ลดลง 1.04%

ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามีทิศทางหลากหลาย

• Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) เพิ่มขึ้น 7.49% หลังจาก อีลอน มัสก์ กล่าวในพอดคาสต์ว่าเขาบรรลุเป้าหมายในการขายหุ้น 10% ด้วยเหตุผลด้านภาษี
• Lucid Group Inc ( NASDAQ:LCID) เพิ่มขึ้น 1.79%
• Rivian Automotive Inc (NASDAQ:RIVN) ลดลง 0.5%
• Block Inc (NYSE:SQ) ลดลง 1.81%

Pfizer Inc (NYSE:PFE) เพิ่มขึ้น 1% หลังจากที่ยาเม็ดได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสตัวแรกที่ใช้ต้านไวรัสสำหรับใช้ในครัวเรือน

หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางเพิ่มขึ้น

Delta Air Lines Inc (NYSE:DAL) เพิ่มขึ้น 1.58% American Airlines Group (NASDAQ:AAL) เพิ่มขึ้น 0.77% United Airlines Holdings Inc (NASDAQ: UAL) เพิ่มขึ้น 1.46% Expedia Inc (NASDAQ:EXPE) เพิ่มขึ้น 2.91% Carnival Corporation (NYSE:CCL) เพิ่มขึ้น 3.46% และ Norwegian Cruise Line Holdings Ltd (NYSE:NCLH) เพิ่มขึ้น 1.94%

การเงินรายใหญ่ก็ปิดในแดนบวก โดย JPMorgan Chase & Co (NYSE:JPM) เพิ่มขึ้น 0.39%, Citizens Financial Group Inc (NYSE:CFG) เพิ่มขึ้น 0.68%, Bank of America คอร์ป (NYSE:BAC) เพิ่มขึ้น 0.2%, Citigroup Inc (NYSE:C) เพิ่มขึ้น 0.37% และ Wells Fargo & Company (NYSE:WFC) เพิ่มขึ้น 0.46 %.

ในตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทน พันธบัตรอายุ 10 อายุ อยู่ที่ 1.453%

ในส่วนของข้อมูลที่นักลงทุนต้องจับตา รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี ปรับตัวดีขึ้นเกินคาดในเดือนธันวาคม ขณะที่ ยอดขายบ้านมือสอง เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามในเดือนพฤศจิกายน

นักลงทุนจะได้รับข้อมูลอัตราเงินเฟ้อในวันพฤหัสบดี ซึ่งรวมถึงราคาสำหรับ ค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลหลัก หมายเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคและ การเรียกร้องสวัสดิการว่างงาน ก็มีกำหนดประกาศเช่นกัน

อ้างอิง: th.investing.com/

ดาวโจนส์บวก 261.19 จุด รับจีดีพีไตรมาส 3/64 สูงกว่าคาด

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก 261.19 จุด หรือ 0.74% อยู่ที่ 35,753.89 จุด ตอบรับความเสี่ยงผู้ป่วยโควิดโอมิครอนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลต่ำกว่าเดลตา-จีดีพีสหรัฐไตรมาส 3/64 เติบโตสูงกว่าคาด

ตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 23 ธ.ค.64 มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง ดังนี้

• ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) ปรับขึ้น 261.19 จุด หรือปรับขึ้น 0.74% มาอยู่ที่ 35,753.89 จุด
• ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีเอสแอนด์พี 500 (S&P 500) ปรับขึ้น 47.33 จุด หรือปรับขึ้น 1.02% มาอยู่ที่ 4,696.56 จุด
• ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีแนสแดค (NASDAQ) ปรับขึ้น 180.80 จุด หรือปรับขึ้น 1.18% มาอยู่ที่ 15,521.89 จุด
• ตลาดหุ้นอังกฤษ ดัชนีฟุตซี่ 100 (FTSE 100) ปรับขึ้น 44.25 จุด หรือปรับขึ้น 0.61% มาอยู่ที่ 7,341.66 จุด
• ตลาดหุ้นเยอรมัน ดัชนีแด๊ก (DAX) ปรับขึ้น 146.03 จุด หรือปรับขึ้น 0.95% มาอยู่ที่ 15,593.47 จุด
• ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ดัชนีซีเอซี 40 (CAC40) ปรับขึ้น 86.68 จุด หรือปรับขึ้น 1.24% มาอยู่ที่ 7,051.67 จุด
• ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ดัชนีเจซีไอ (JCI) ปรับลง 24.71 จุด หรือปรับลง 0.38% มาอยู่ที่ 6,529.59 จุด
• ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ดัชนีพีเอสอี คอมโพสิต (PCOMP) ปรับขึ้น 38.18 จุด หรือปรับขึ้น 0.54% มาอยู่ที่ 7,157.37 จุด
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ดัชนีนิเคอิ (NIKKEI) ปรับขึ้น 96.87 จุด หรือปรับขึ้น 0.34% มาอยู่ที่ 28,659.08 จุด
• ตลาดหุ้นจีน ดัชนีเซี่ยงไฮ้ (CSI300) ปรับขึ้น 9.84 จุด หรือปรับขึ้น 0.20% มาอยู่ที่ 4,924.29 จุด
• ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง (HANG SENG) ปรับขึ้น 39.46 จุด หรือปรับขึ้น 0.17% มาอยู่ที่ 23,141.79 จุด

โดยตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 261.19 จุด หรือ 0.74% ปิดที่ 35,753.89 จุด หลังมีผลการศึกษสถาบันอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนระบุว่า ความเสี่ยงที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมีน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา 40% – 45%

รวมถึงรายงานจีดีพีไตรมาส 3/64 ของสหรัฐขยายตัว 2.3% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่สองที่ 2.1% ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐปรับขึ้น 1.9% จากเดือนก่อน (Mom) เป็น 6.46 ล้านยูนิตในเดือน พ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากแรงหนุนการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิเ-19 สายพันธุ์โอมิครอน ส่วนตลาดหุ้นเอเชียปรับขึ้น ตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ และฟื้นตัวหลังปรับลงแรงในช่วงก่อนหน้าจากความกังวลเกี่ยวกับโอมิครอน

อ้างอิง: businesstoday.co

หุ้นเอเชีย” เปิดบวก! ขานรับศก.สหรัฐฯแกร่ง โชว์ “GDP” ไตรมาส 3 ขยายตัว 2.3%

หุ้นเอเชีย” เปิดบวก! ตามทิศทางดาวโจนส์ ขานรับข้อมูลศก.สหรัฐฯที่แข็งแกร่ง โดยตัวเลข GDP ไตรมาส 3/64 ของสหรัฐขยายตัว 2.3% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 2.1% ตลาดหุ้นเอเชียเปิดในแดนบวกเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ที่ปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 3 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลการวิจัยครั้งล่าสุดที่ระบุว่า ความเสี่ยงที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์
โอมิครอนจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น มีน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส
สายพันธุ์เดลตา

• ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,703.01 จุด เพิ่มขึ้น 140.80 จุด หรือ +0.49%
• ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,141.79 จุด เปิดวันนี้ที่ 23,141.79 จุด เพิ่มขึ้น 39.46 จุด หรือ +0.17%
• ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,625.47 จุด เพิ่มขึ้น 2.85 จุด หรือ +0.08

ทั้งนี้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่สถาบันอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนเผยผลการศึกษาครั้งล่าสุดซึ่งระบุว่า ความเสี่ยงที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น มีน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาประมาณ 40% – 45% โดยรายงานดังกล่าวสอดคล้องกับผลวิจัยของสถาบันโรคติดต่อของแอฟริกาใต้ และสถาบันสาธารณสุขของสกอตแลนด์

นอกจากนี้นักลงทุนยังซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2564 ของสหรัฐขยายตัว 2.3% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2
ที่ระดับ 2.1% ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐปรับตัวขึ้น 1.9% สู่ระดับ 6.46 ล้าน ยูนิตในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังจับตาตลาดหุ้นจีน หลังจากที่ทางการเมืองซีอานสั่งให้ประชาชนซึ่งมีจำนวนราว 13 ล้านคน อยู่บ้านและหลีกเลี่ยงการเดินทางออกจากบ้าน
โดยไม่จำเป็น เพื่อควบคุมยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นตามแนวทางที่รัฐบาลจีนกำหนด เพื่อสกัดกลุ่มผู้ติดเชื้อ

อ้างอิง: kaohoon.com/

ทองคำปรับตัวขึ้น ท่ามกลางความต้องการทรัพย์สินปลอดภัย

ราคาทองคำพุ่งขึ้นในเช้าวันพุธที่เอเชีย เนื่องจากนักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเนื่องจากความกลัวไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นและความกังวลของนักลงทุนผ่อนคลายลงเล็กน้อยจำกัดช่วงบวกของทองคำ

• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ขยับขึ้น 0.03% เป็น 1,789.20 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 23:01 น. ET (4:01 น. GMT) ดอลลาร์ ซึ่งปกติจะเคลื่อนไหวผกผันกับทองคำ ปรับขึ้นในวันพุธ

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐสูงขึ้นในวันอังคาร หลังจากนักลงทุนมุ่งเน้นไปที่สภาวะเศรษฐกิจในแง่ดีและอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง การประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปีออกมาดีเกินคาด

หุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียปรับตัวขึ้นในวันพุธ แต่ตลาดทั่วโลกชะลอตัวลง ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนยังคงแพร่กระจายในยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย และบางประเทศกำลังจะนำมาตรการที่เข้มงวดกลับมาใช้อีกครั้ง นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของสหราชอาณาจักร เรียกร้องให้ประชาชนระมัดระวัง แต่จะไม่กำหนดข้อจำกัดที่เข้มงวดกว่านี้ก่อนวันหยุด ฝรั่งเศสจะจำกัดการเฉลิมฉลองเนื่องในวันส่งท้ายปีเก่า ในขณะที่เยอรมนีจะจำกัดการรวมตัวไว้ที่ 10 คน

ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน เรียกร้องให้ชาวอเมริกันรับการฉีดวัคซีนก่อนคริสต์มาส สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะอนุมัติยาเม็ดรักษาโควิด-19 จาก Pfizer Inc. (NYSE:PFE) และ Merck & Co. Inc. โดยเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้

ด้านเอเชียแปซิฟิก ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้เปิดเผย ผลการประชุม จากการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวัน

ด้านโลหะมีค่าอื่น ๆ เงินลดลง 0.1% และแพลตตินั่มลดลง 0.3% ในขณะที่แพลเลเดียมขยับขึ้น 0.2%

อ้างอิง: th.investing.com/