ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรงตัว หลัง Nasdaq ลบ 2%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้น ในการซื้อขายในวันอังคาร หลังจากที่ดัชนีหลักได้สิ้นสุดการซื้อขายแบบผสม เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสูงขึ้น กระตุ้นให้นักลงทุนจำนวนมากปรับตำแหน่งพอร์ตการลงทุนของตนจากอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะถูกปรับให้สูงขึ้น

• ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 162.79 จุดหรือ 0.45% มาที่ 36,068.87
• ดัชนี S&P 500 ปิดตัวลง 0.14% ที่ 4,670.29 ในขณะที่แนสแด็กฟื้นตัวจากการขาดทุนก่อนหน้านี้ 2% เป็น ปิดบวก 0.05% ที่ 14,942.83

หุ้นที่น่าจับตา

• Block Inc (NYSE:SQ) เพิ่มขึ้น 2.08%
• Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) ลดลง 0.66%
• Meta Platforms Inc (NASDAQ: FB) ลดลง 1.12%
• Twitter Inc (NYSE:TWTR) เพิ่มขึ้น 0.76%
• Alphabet Inc (NASDAQ:GOOGL) เพิ่มขึ้น 1.21%
• Adobe Systems Incorporated ( NASDAQ:ADBE) เพิ่มขึ้น 2.96%
• NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) เพิ่มขึ้น 0.56%
• Apple Inc (NASDAQ:AAPL) ปิดที่ 172.19
• Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) เพิ่มขึ้น 3.03%
• Rivian Automotive Inc (NASDAQ:RIVN ) ลดลง 5.61%
• Lucid Group Inc (NASDAQ:LCID) ลดลง 0.62%
• Take-Two Interactive Software Inc (NASDAQ:TTWO) ร่วงลง 13.13% หลังจากที่บริษัทประกาศข้อตกลงซื้อ Zynga Lululemon Athletica Inc (NASDAQ:LULU) ซึ่งร่วงลงเกือบ 2% หลังจากที่บริษัทกล่าวว่าสายพันธุ์โอมิครอนได้ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการไตรมาสสี่ของบริษัท
• Intel Corporation (NASDAQ:INTC) เพิ่มขึ้น 3.06% หลังจากบริษัทยืนยันแต่งตั้ง David Zinsner เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน
• Micron Technology Inc (NASDAQ:MU) ลดลง 1.25%

ด้านตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 1.755%

ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับข้อมูลทางเศรษฐกิจและข่าวจากธนาคารกลาง ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์มีกำหนดจะแถลงในวันอังคาร ซึ่งอาจให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของนโยบายการเงิน รวมทั้งดัชนีราคาผู้บริโภคที่จะประกาศในวันพุธ ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต ซึ่งใช้วัดราคาขายส่งมีกำหนดในวันพฤหัสบดี

ฤดูกาลประกาศผลประกอบการจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ด้วย JPMorgan Chase & Co รุ่นใหญ่ด้านการเงิน (NYSE:JPM), Citigroup Inc (NYSE:C) และ Wells Fargo & Company (NYSE:{{7992) |WFC}}) กำหนดเผยแพร่ผลประกอบการรายไตรมาสในวันศุกร์

อ้างอิง: th.investing.com/

ดอลลาร์แกว่งตัวลงเล็กน้อย ระหว่างรอพาวเวลล์แถลง

ดอลลาร์อ่อนค่าลง ในเช้าวันอังคารในเอเชีย แต่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับกลาง ขณะนี้
นักลงทุนกำลังรอความเห็นจาก เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
เพื่อหาเบาะแสใหม่เกี่ยวกับตารางเวลาและความเร็วของการดำเนินนโยบาย

• ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ขยับลง 0.12% เป็น 95.875 เมื่อเวลา 22:13 น. ET (3:13 AM GMT)
• ค่าเงินเยน ขยับขึ้น 0.12% เป็น 115.34 เยนต่อดอลลาร์
• ดอลลาร์ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.31% เป็น 0.7190 โดย ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ยอดค้าปลีก ของออสเตรเลีย เติบโตดีเกินคาด 7.3% ต่อเดือน และ ยอดดุลการค้า อยู่ที่ 9.423 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนพฤศจิกายน
• ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ขยับขึ้น 0.21% เป็น 0.6769
• ค่าเงินหยวน ลดลง 0.06% เป็น 6.3722 หยวนต่อดอลลาร์ ในขณะที่ ค่าเงินปอนด์ ขยับขึ้น 0.12% เป็น 1.3591 ปอนด์ต่อดอลลาร์
• ค่าเงินบาท แข็งค่าเล็กน้อย ได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงเช้าวันนี้ ซื้อขายอยู่ที่ 33.490 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ในการกล่าวเปิดการประชุมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พาวเวลล์ให้คำมั่นที่จะป้องกันไม่ให้เงินเฟ้อสูงกลายเป็น “สถานการณ์ถาวร” แต่ไม่ได้ให้เบาะแสเกี่ยวกับไทม์ไลน์ของธนาคารกลางและความเร็วที่จะใช้ในการกระชับนโยบายทางการเงิน

พาวเวลล์กำลังเข้าพิธีรับตำแหน่งประธานเฟดเป็นวาระที่สอง และจะตอบคำถามจากวุฒิสมาชิกในระหว่างการแถลงของเขา สำหรับการเข้ารับตำแหน่งของ เลล เบรนาร์ด จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี ด้านเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดแห่งแคนซัสซิตี และนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดแห่งเซนต์หลุยส์ จะพูดกันในช่วงท้ายของวัน โดยเป็นเจ้าหน้าที่เฟดชุดแรกที่จะขึ้นพูดในสัปดาห์นี้

ดูเหมือนว่าเฟดจะใช้แนวคิดว่าดำเนินนโยบาย “เร็วดีกว่าช้า” ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและงบดุลหลังจากสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นการซื้อพันธบัตร นักยุทธศาสตร์ด้านหลักทรัพย์ของ TD กล่าวในหมายเหตุ “คำยืนยันของการปรับขึ้นเดือนมีนาคม 2022 และการตึงตัวในเชิงปริมาณในช่วงต้นน่าจะสนับสนุนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์โดยรวม แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่หมั่นหมายไว้แล้ว” หมายเหตุกล่าวเสริม แม้ว่านักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก TD จะคาดว่าการปรับขึ้นจะเกิดขึ้นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2022 การปรับขึ้นต้นเดือนมีนาคมก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ตลาดเงินกำหนดปรับฐานสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนพฤษภาคม 2022 และเพิ่มอีกสองครั้งในเดือนพฤศจิกายน ขณะนี้นักลงทุนรอข้อมูลของสหรัฐฯ โดยมี ดัชนีราคาผู้บริโภค และ หนังสือสีเบจ ในวันพุธ ตามด้วย ดัชนีราคาผู้ผลิต นอกจากนี้ จีนจะเปิดเผยดัชนีราคา ผู้บริโภค และ ผู้ผลิต ของตนเองในวันพุธนี้

อ้างอิง: th.investing.com/

หุ้นเอเชียร่วงลง ขณะที่ตลาดยัง “ปรับฐานอย่างรุนแรง” ต่อเนื่อง

หุ้นเอเชียแปซิฟิกร่วงลงในเช้าวันอังคาร แม้ออสเตรเลียประกาศข้อมูลยอดขายปลีกดีเกินคาด

• นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่น ลดลง 1.28% เมื่อเวลา 21:02 น. ตามเวลามาตรฐาน
  ตะวันออก (2:02 น. GMT) เปิดทำการอีกครั้งหลังวันหยุด
• KOSPI ของเกาหลีใต้ลดลง 0.44%
• ASX 200 ของออสเตรเลียลดลง 0.85% โดย ยอดขายปลีก เพิ่มขึ้น 7.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนพฤศจิกายน ยอดดุลการค้า มีมูลค่า 9.423 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
• ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 0.50%
• ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนขยับลง 0.12%
• ดัชนีองค์ประกอบ SZSE ลดลง 0.29% จีนจะเผยแพร่ดัชนีราคา ผู้บริโภค และ ผู้ผลิต ในวันพุธ

นักลงทุนยังคงติดตามผลกระทบของนโยบายการเงินจากธนาคารกลางและการแพร่กระจายของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน “เราคิดว่าในที่สุดตลาดจะย้อนกลับไปสู่การเติบโต แต่เรายังต้องรอการปรับฐาน” Lori Calvasina หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของ RBC Capital Markets กล่าวกับ Bloomberg “นี่เป็นการปรับราคาใหม่ มันเจ็บปวด แต่มันยังต้องไปต่อ”

เส้นกราฟของพันธบัตรสหรัฐฯ ราบเรียบ โดยอัตราผลตอบแทนระยะสั้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากการเดิมพันธนาคารกลางสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2022 เพิ่มขึ้น และ Goldman Sachs Group Inc. คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสี่ครั้งในปี 2565

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว และธนาคารกลางจะป้องกันเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจากการคงอยู่ถาวร ก่อนที่วุฒิสภาจัดพิธีเข้ารับตำแหน่งในวาระที่สองของเขาในวันรุ่งขึ้น พาวเวลล์ยังเตือนด้วยว่าเศรษฐกิจหลังโควิด-19 อาจดูแตกต่างจากการขยายตัวครั้งก่อน คณะกรรมการการธนาคารวุฒิสภาสหรัฐจะจัดให้มีพิธีเข้ารับตำแหน่งรองประธานเฟด ของเลล เบรนาร์ดในวันพฤหัสบดีนี้ด้วยเช่นกัน เจ้าหน้าที่เฟดคนอื่น ๆ ได้แก่ เอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดแห่งแคนซัสซิตี้ และเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดแห่งเซนต์หลุยส์มีกำหนดขึ้นพูดในช่วงท้ายของวัน

ขณะนี้นักลงทุนมีสิ่งยึดเหนี่ยวเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อไวรัสในนิวยอร์กอาจถึงจุดสูงสุดประมาณหนึ่งเดือนหลังจากพบผู้ติดเชื้อรายแรกในพื้นที่ Pfizer Inc. (NYSE:PFE) กำลังพัฒนาวัคซีนไฮบริดที่สามารถป้องกันเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน และการศึกษาใหม่จาก Imperial College London แสดงให้เห็นว่า “t-cells” ที่เกิดจากโรคไข้หวัดลดโอกาสของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้

อ้างอิง: th.investing.com/

น้ำมันปรับตัวขึ้น หลังความกระหายความเสี่ยงกลับมา

ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในเช้าวันอังคารในเอเชีย โดยนักลงทุนเริ่มกล้าเสี่ยงอีกครั้ง เนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันบางรายยังคงดิ้นรนเพื่อเพิ่มผลผลิต

• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.54% สู่ 81.31 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 22:40 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (3:40 น. GMT)
• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.72% เป็น 78.79 ดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งอ่อนค่าลงในวันอังคาร ก็เป็นปัจจัยหนุนน้ำมันเช่นกัน

ราคาน้ำมันปรับตัวลงในช่วงสองวันที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับจำนวน
ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อาจเพิ่มสูงขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้เชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนชี้ว่าอุปทานที่ตึงตัวจากกลุ่มประเทศและพันธมิตรผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ไม่เป็นไปตามอุปสงค์และราคา “ตลาดยังคงได้รับประโยชน์จากอุปทานที่ตึงตัวและความเสี่ยงด้านอุปทานจากรัสเซีย” นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของ ANZ Research กล่าวในหมายเหตุ

ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียยังคงสูงอยู่จากการที่รัสเซียมีกองกำลังติดชายแดนกับยูเครน ซึ่งอาจขยายความรุนแรงไปสู่การใช้อาวุธได้ นักลงทุนรายอื่นจับตาไปที่อุปทานที่เพิ่มขึ้นของ OPEC ซึ่งยังคงต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นที่ OPEC+ ตกลงกันในปี 2021 ซึ่งประเทศสมาชิกบางประเทศ รวมทั้งไนจีเรีย ไม่ได้ผลิตในปริมาณที่ตกลงกันไว้ “ปัจจัยพื้นฐานยังคงเป็นขาขึ้นสำหรับราคาน้ำมันดิบอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกลุ่ม OPEC ยังคงดิ้นรนเพื่อผลิตให้ได้โควตา 400,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากอุปสงค์เพิ่มขึ้น” เครก เออร์แลม นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวกับรอยเตอร์ส

อุปทานในลิเบียซึ่งได้รับการยกเว้นจากการควบคุมของกลุ่มพันธมิตรได้รับผลกระทบจากงานบำรุงรักษาท่อส่งน้ำมันและการหยุดชะงักแหล่งผลิตน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การผลิตกลับมาดำเนินการแล้วในวันจันทร์นี้ หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธเข้าระงับการผลิตในเดือนธันวาคม 2564 นักลงทุนกำลังรอ ข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐอเมริกา (American Petroleum Institute) จะครบกำหนดประกาศในช่วงท้ายของวัน

อ้างอิง: th.investing.com/

ทองคำบวกหลังดอลลาร์อ่อนค่า ขณะที่นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในเช้าวันอังคารที่เอเชีย โดยได้รับปัจจัยหนุนจาก ค่าเงินดอลลาร์ ที่อ่อนค่า และข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดในสัปดาห์นี้

• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ เพิ่มขึ้น 0.36% สู่ $1,805.25 เมื่อเวลา 23:13 น. ET (4:13 น. GMT) ค่าเงินดอลลาร์ซึ่งปกติจะเคลื่อนไหวผกผันกับทองคำ อ่อนค่าลงในวันอังคาร
• เงิน เพิ่มขึ้น 0.4%
• แพลทินัม เพิ่มขึ้น 1%
• แพลเลเดียม เพิ่มขึ้น 0.5%

มากาเร็ต หยาง นักยุทธศาสตร์จาก DailyFX กล่าวกับรอยเตอร์สว่า “การกลับตัวของทั้งเงินดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ แต่ความจริงที่ว่าตลาดจะเผชิญกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสามถึงสี่ครั้งในปีนี้กำลังจำกัดศักยภาพขาขึ้น”

“ตลาดเห็นอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเติบโตขึ้น 5.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี และหากตัวเลขเกินการคาดการณ์นี้ เราอาจเห็นค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีก และราคาทองคำก็จะร่วงลง อย่างไรก็ตาม หากอัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ก็อาจช่วยจำกัดการสูญเสียของทองคำได้ด้วย” หยางกล่าว

อ้างอิง: th.investing.com/